วันนี้ (18 มีนาคม 2567) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและภาคเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา เชียงราย น่านและแพร่) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบ 15 โครงการพัฒนาภาคเหนือตอนบน วงเงินลงทุนรวม 395.88 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จังหวัดพะเยา ในวันพรุ่งนี้ (19 มีนาคม 2567) พิจารณา
สำหรับโครงการเร่งด่วนที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายใน 1 ปี ประกอบด้วย โครงการของกลุ่มจังหวัด/จังหวัด 11 โครงการ วงเงิน 250 ล้านบาท และโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน 4 โครงการ วงเงิน 145.88 ล้านบาท โดยทั้งหมดจะเป็นการขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสํารองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น
โดยโครงการที่ได้รับการอนุมัติเพื่อเสนอต่อ ครม. ในวันที่ 19 มีนาคม 2567 เป็นการการกลั่นกรองร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จากทั้งหมด จํานวน 89 โครงการ ใน 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 โครงการที่มีความพร้อมและดําเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ที่สศช. สํานักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทยร่วมกับจังหวัด ลงพื้นที่พิจารณากลั่นกรอง จํานวน 11 โครงการ
1.โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างสร้างสรรค์ และยั่งยืน วงเงิน 20 ล้านบาท
2.โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรด้านชาและกาแฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน วงเงิน 15 ล้านบาท
3.โครงการยกระดับสินค้าและบริการด้านสุขภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 วงเงิน 15 ล้านบาท
4.โครงการเชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท
5.โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 26.12 ล้านบาท
6.โครงการยกระดับการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรมูลค่าสูง ตามแนวทางตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ จังหวัด พะเยา วงเงิน 23.88 ล้านบาท
7.โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง วงเงิน 14 ล้านบาท
8.โครงการน่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก วงเงิน 21 ล้านบาท
9.โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง (กาแฟ) จังหวัดน่าน วงเงิน 15 ล้านบาท
10.โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองเก่าแพร่ วงเงิน 45 ล้านบาท
11.โครงการยกระดับการผลิตภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าจังหวัดแพร่ วงเงิน 5 ล้านบาท
กลุ่มที่ 2 โครงการซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดและจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จํานวน 78 โครงการ ซึ่ง สศช. สํานักงบประมาณ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด และภาคเอกชน ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่า มีความพร้อมและดำเนินแล้วเสร็จภายใน 1 ปี มีจํานวน 4 โครงการ วงเงินรวม 145.88 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1202 ตอนควบคุม 0200 ตอน สันต้นแหน - ป่าแดด ตําบลโรงช้าง อําเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย วงเงิน 50 ล้านบาท
2.โครงการอํานวยความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท
3.โครงการพลิกโฉมถนนสายวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ Soft Power พะเยา วงเงิน 25.88 ล้านบาท
4.โครงการสูบน้ำขึ้นดอย สอย PM2.5 สร้างป่าคาร์บอนเครดิต วงเงิน 20 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอของเอกชนนี้อีก 1 กลุ่มโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนน ที่ประกอบไปด้วย 4 โครงการย่อย โดยที่ประชุมเห็นว่ามีความพร้อมในการดำเนินการเช่นกัน แต่เนื่องจากเป็นรายการที่จะได้รับการสนับสนุนตามงบประมาณรายจ่ายปี 2568 อยู่แล้ว จึงมีมติให้เสนอ ครม. อนุมัติเพื่อให้ดำเนินการขอใช้จ่ายจากงบประมาณประจำปี 2568 ต่อไป รวมวงเงิน 34.87 ล้านบาท ประกอบด้วย
สำหรับอีก 74 โครงการ ที่เอกชนเสนอ แม้จะไม่ได้เสนอให้ได้รับการจัดสรรงบกลางในครั้งนี้ แต่จะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการกำชับเร่งรัด เพื่อให้มีการดำเนินการตามข้อเสนอของภาคเอกชน เป็นไปตามแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นายอนุทิน ระบุว่า การประชุมครั้งนี้ ได้รับฟังข้อเสนอจากผู้แทนทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างครบถ้วน ซึ่งจะได้มีการสรุปและนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ในวันที่ 19 มีนาคม นี้ โดยมั่นใจว่า ครม. จะพิจารณาข้อเสนอต่างๆ เพื่อนำไปสู่การผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า เดิมมีข้อเสนอของภาคเอกชน ที่เตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาโครงการสำคัญที่เป็นความต้องการของภาคีการพัฒนา (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 รวม 11 โครงการ วงเงิน 90,558 ล้านบาท
หนึ่งในนั้นคือ โครงการการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในการเชื่อมโยงการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมและการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายเชียงใหม่ - เชียงราย ระยะทาง 184 กิโลเมตร งบประมาณ 86,300 ล้านบาท แต่ที่ประชุมครั้งนี้ยังไม่ได้เห็นชอบ เพียงแต่มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการกำชับเร่งรัด เพื่อให้มีการดำเนินการตามข้อเสนอของภาคเอกชนต่อไป