แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ขณะนี้ คณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดสศช.) ได้มีมติเห็นชอบ ร่างแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2566-2570 หรือ EEC เฟส 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในขั้นตอนต่อจากนี้จะให้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีความเห็นต่อร่างแผนภาพรวมของ EEC เฟส 2 ในระยะ 5 ปี ในประเด็นต่าง ๆ ด้วยว่า นอกจากแผนภาพรวมแล้วเห็นควรให้มีแผนดำเนินการที่ชัดเจนในประเด็นเรื่องการรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ พร้อมเสนอให้มีการปรับตัวชี้วัดและเป้าหมาย รวมปัญหาอุปสรรคและการแก้ไขให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังให้เพิ่มแนวทางการชี้วัดประชากรแฝงและความยั่งยืนของชุมชน เช่นเดียวกับติดตามประเด็นการมีสถานีรถไฟจำนวนมากระหว่างทางเชื่อมสถานีรถไฟถึงสนามบิน อาจส่งผลกระทบทำให้รถไฟไม่สามารถทำความเร็วได้อย่างเต็มที่ พร้อมเห็นควรให้รักษาความชัดเจนและความต่อเนื่องในโครงการ EEC เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างประเทศ และให้ทุกหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมกันกับสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะแรงงานด้วย
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กอพ.) กล่าวกับฐานเศรษฐกิจถึงร่างแผนภาพรวมของ EEC เฟส 2 ว่า ในรายละเอียดของแผนภาพรวมจะยังคงเป็นไปเป้าหมายที่ผ่านการพิจารณาจากบอร์ด EEC ไปแล้ว แต่จะมีเพียงบางส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาตามมติของ สศช. ที่พิจารณารายละเอียดภาพรวมของแผน ซึ่งมีการกำหนดข้อมูลการพัฒนาไว้หลายประเด็นเพื่อให้สำนักงานรับไปดำเนินการต่อ
สำหรับ ร่างแผนภาพรวมของ EEC เฟส 2 มีช่วงระยเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2570 นับเป็นการต่อยอดการพัฒนาโครงการ EEC จากระยะที่ 1 ที่เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 –2565 โดยมีการอนุมัติการลงทุน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานหลักไปแล้วมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ภายใต้แผนงานได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายว่าจะเกิดจำนวนเงินการลงทุนจริงในพื้นที่ ระหว่างปี 2566 - 2570 เพิ่มขึ้นรวม 500,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 100,000 ล้านบาท มีผลิตภัณฑ์มวลรวมของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Gross Provincial Cluster Product : GPCP EEC) ขยายตัวเฉลี่ย 6.3% และดัชนีความก้าวหน้าของคน (Human Achievement Index) ในพื้นที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2%
สำหรับการขับเคลื่อนการทำงานภายใต้แผน EEC เฟส 2 กำหนดแนวทางการดำเนินงานใน 5 เรื่องหลักนั่นคือ