เศรษฐา เล็งส่งกฤษฎีกา ตีความยืมงบ ธ.ก.ส. แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต

11 เม.ย. 2567 | 05:04 น.
อัปเดตล่าสุด :11 เม.ย. 2567 | 05:08 น.

นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” เล็งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตรวจสอบข้อกฎหมายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หลังก้าวไกล ติงยืมเงิน ธ.ก.ส. มาใช้อาจทำผิดวัตถุประสงค์

วันนี้ (11 เมษายน 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของรัฐบาล หลังนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้เงินส่วนหนึ่ง จากการยืมธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะเป็นการทำผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ว่า จะมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตรวจสอบข้อกฎหมาย

“มั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้อง และจะให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ตรวจสอบ โดยยืนยันว่าทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎหมาย” นายกฯ ระบุ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาในการประชุมบอร์ดเงินดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้แสดงความเห็นถึงโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตว่า เพื่อให้การพิจารณาของคณะกรรมการฯ มีความครบถ้วนและรอบคอบ ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ฝ่ายเลขานุการฯ และหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำข้อเสนอเพื่อปรับปรุงแนวทางการดำเนินโครงการ 

ทั้งนี้ควรศึกษาและนำเสนอข้อมูลที่มีความชัดเจนต่อคณะกรรมการฯ เพื่อประกอบการพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ อย่างน้อย ดังต่อไปนี้

กรณีแหล่งเงินของโครงการฯ โดยข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งเงินในการดำเนินโครงการนั้น ธปท. เห็นว่า หากจะเสนอให้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ควรมีการศึกษาและนำเสนอข้อมูลแหล่งเงินงบประมาณ ประมาณการ วงเงินงบประมาณที่อาจนำมาใช้ได้ และแนวทางในการบริหารงบประมาณรายจ่ายรายการต่าง ๆ ให้ชัดเจน

รวมทั้งควรพิจารณาว่า การใช้เงินงบประมาณตามที่ระบุนั้น สอดคล้องกับกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว ซึ่งหากยังมีประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ต้องตีความหรือวินิจฉัย ควรหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ได้ข้อยุติเช่นเดียวกับที่เคยหารือในช่วงก่อนหน้า โดยมี 3 ประเด็นดังนี้

1.หากเสนอให้ใช้เงินจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ควรชี้แจงได้ชัดเจนว่า เป็นกรณีฉุกเฉินหรือมีความจำเป็นที่ไม่อาจใช้งบประมาณที่จัดสรรไว้แล้ว

2.หากเสนอให้จัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ควรชี้แจงได้ชัดเจนถึงเหตุผลในการใช้เงินและแหล่งเงินที่พึงได้มาสำหรับจ่ายตามงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม

3.หากเสนอมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐดำเนินโครงการโดยรัฐบาลรับภาระ จะชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ ตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ควรชี้แจงได้ชัดเจนว่า การดำเนินการนั้นอยู่ในหน้าที่ อำนาจ และขอบวัตถุประสงค์ของหน่วยงานนั้นหรือไม่ พร้อมทั้งจะบริหารจัดการภาระทางการคลังและผลกระทบต่อการดำเนินงานของหน่วยงานนั้นอย่างไร

อย่างไรก็ตามในช่วงของการแถลงข่าวหลังการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นโยบายการเติมเงินดิจิทัล ที่ผ่านการเห็นชอบจากบอร์ดครั้งนี้รัฐบาลได้ใช้ความพยายามสูงสุดฟันฝ่าอุปสรรคและข้อจำกัดทั้งหลาย จนวันนี้ได้มาถึงวันที่รัฐบาลสามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน ส่งมอบนโยบายที่จะพลิกชีวิตพี่น้องประชาชนได้ และที่สำคัญเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการ