“มนพร”กางแผนเช่ารถเมล์ NGV เคลียร์ปมสหภาพฯจี้ปลด ผอ.ขสมก.

26 เม.ย. 2567 | 03:00 น.

“มนพร” เรียกถก “กิตติกานต์” หลังสหภาพฯจี้ปลด ผอ.ขสมก. ลุยแผนประมูลหาผู้รับจ้างเหมาซ่อมรถโดยสาร NGV จำนวน 350 คัน คาดได้ตัวผู้รับจ้างรายใหม่ในเดือน พ.ค.นี้

KEY

POINTS

  • “มนพร” เรียกถก “กิตติกานต์” หลังสหภาพฯจี้ปลด ผอ.ขสมก.
  • ลุยแผนประมูลหาผู้รับจ้างเหมาซ่อมรถโดยสาร NGV จำนวน 350 คัน คาดได้ตัวผู้รับจ้างรายใหม่ในเดือน พ.ค.นี้ 

“ขสมก.” หรือผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะแก่ประชาชน กลายเป็นประเด็นร้อนที่กล่าวถึง เนื่องจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) ทำหนังสือยื่นหนังสือร้องเรียน 4 ข้อ ถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ขอให้ปลดนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล (ผอ.ขสมก.) หลังจากการบริหารงานที่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชนในเส้นทางต่างๆ มากกว่า 20 เส้นทาง

 

 เรียกถก “กิตติกานต์” ผอ.ขสมก.ชี้แจง

 นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันตนได้มีการสอบถามจากผอ.ขสมก. ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าขั้นตอนการบอกเลิกสัญญาเหมาซ่อมกับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO หรือ บมจ.ช ทวี เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ขสมก. ไม่นาน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแจ้งยกเลิกสัญญากับบมจ.ช ทวี

 

 ทั้งนี้คณะกรรมการการประเมินฯได้มีการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น พบว่า มีรถโดยสารของขสมก.กว่า 100 สาย จำนวน 2,300 คัน ได้รับความเสียหาย เนื่องจากเป็นรถโดยสารที่จะนำมาให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะเร่งรัดดำเนินการเปิดประมูลหาผู้รับจ้างรายใหม่โดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ภายในเดือนพ.ค.นี้

 

ลุยจัดหารถโดยสาร NGV 350 คัน 

นางมนพร กล่าวต่อว่า หลังจากได้ผู้รับจ้างรายใหม่แล้ว เบื้องต้นผู้รับจ้างรายใหม่ต้องดำเนินการซ่อมรถที่มีอยู่เพื่อส่งมอบรถวิ่งให้บริการ ระหว่างนี้ขสมก.จะเช่ารถโดยสาร NGV จำนวน 350 คัน ตามแผนขับเคลื่อนภายใต้แผนฟื้นฟู ขสมก. (BMTA Moving Plan) ซึ่งผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการ ขสมก. แล้ว หลังจากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและสภาพัฒน์พิจารณาเห็นชอบ คาดว่าจะให้บริการรถโดยสารล็อตแรกแก่ประชาชาชนได้ภายในปีนี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการโครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 1,250 คัน ระยะที่ 2 ต่อไป

 

“ประเด็นที่สหภาพแรงงานขสมก.ต้องการให้กระทรวงคมนาคมตั้งคณะกรรมการสอบสวนผอ.ขสมก.นั้น ขณะนี้เรายังไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบผอ.ขสมก.ในเรื่องนี้ เนื่องจากผอ.ขสมก.เพิ่งผ่านการประเมินการทำงานจากคณะกรรมการขสมก.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หากได้รับหนังสือแล้วจึงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบตามที่ร้องเรียนมา เพราะเราต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย”

เปิดใจ ผอ.ขสมก. ปมสหภาพฯ ต้าน

นายนายกิตติกานต์ จอมดวงจารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ประเด็นการประเมินผลงานของตนจากคณะกรรมการ ขสมก.ในช่วงที่ผ่านมา เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นวาระลับในที่ประชุม แต่ที่ประชุมได้เชิญให้เราแสดงวิสัยทัศน์และชี้แจงประเด็นต่างๆในหลายๆเรื่อง คิดว่าไม่น่าจะมีประเด็นอะไร หลังจากนี้เราจะถูกประเมินในตำแหน่งรองผอ.ขสมก และผู้ช่วยขสมก.ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้เป็นประเด็นที่สหภาพฯร้องถึงนายกฯ ในกรณีที่เราไม่แต่งตั้งตำแหน่งอื่นๆ

 

 “เราอยากแต่งตั้งตำแหน่งเหล่านี้อยู่แล้ว แต่เงื่อนไขการแต่งตั้งผู้บริหารในระดับ 9 ที่ขึ้นตำแหน่งในระดับ 10 ต้องผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดขสมก.ก่อน โดยที่ผ่านมาบอร์ดขสมก.ถูกว่างเว้นมา 15 เดือน ประกอบกับผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับ 9 ที่จะขึ้นในระดับ 10 มีคุณสมบัติครบเมื่อเดือน ก.พ. 67 ที่ผ่านมา ดังนั้นข้อมูลที่สหภาพฯกล่าวถึง เราน้อยใจ เพราะเรื่องนี้คนในองค์กรต้องรู้อยู่แล้ว หากถูกการพูดคุยมาจากบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นข้อเท็จที่ไม่ใช่เรื่องดีเลย เราเชื่อว่าเป็นบทบาทที่สหภาพฯจะดำเนินการได้ แต่ควรรับฟังและทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราชี้แจงให้มีความครบถ้วนด้วย”

 

ปิดดีล บอกเลิกสัญญา บมจ.ช ทวี

 นายกิตติกานต์ เล่าต่อว่า จากกรณีข้อร้องเรียนดังกล่าว เบื้องต้นนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกตนเข้าไปพบเพื่อชี้แจงถึงข้อร้องเรียนดังกล่าวแล้ว โดยประเด็นที่ชี้แจงต่อกระทรวงคมนาคมถึงข้อร้องเรียนนั้น เป็นเรื่องการบอกเลิกสัญญาเหมาซ่อมกับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO หรือ บมจ.ช ทวี ปัจจุบันพบว่ามีรถโดยสาร NGV จำนวน 489 คัน ที่จอดเสียรอการซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามสัญญาอยู่แล้ว ที่ผ่านมาบมจ.ช ทวี ผิดสัญญาไม่มีการซ่อมให้ขสมก.โดยตามปกติจะมีการเซ็นรับรองการซ่อมบำรุงก่อนนำรถออกให้บริการทุกคันตามข้อสัญญา

 

 ขณะเดียวกันหากไม่มีช่างดำเนินการส่งมอบรถตามสัญญา ทำให้รถไม่สามารถพร้อมใช้งานได้ ส่งผลกระทบต่อขสมก.ไม่สามารถนำรถออกให้บริการแก่ประชาชนได้ โดยที่ผ่านมาขสมก.ได้มีการส่งหนังสือถึงบมจ.ช ทวี หลายครั้งให้เร่งรัดดำเนินการตามสัญญา แต่บมจ.ช ทวี ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญา ส่งผลให้คณะกรรมการตรวจรับงานฯ ในสัญญาตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างได้มีการรายงานมาถึงตนเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา เห็นควรให้บอกเลิกสัญญากับบมจ.ช ทวี

ผิดสัญญา-เรียกค่าเสียหายกว่า 400 ล้านบาท

 นายกิตติกานต์ เล่าอีกว่า ส่วนประเด็นที่รถโดยสารจอดซ่อมเสียไว้นาน แต่ทำไมขสมก.เพิ่งบอกเลิกสัญญานั้น ตามข้อสัญญาระหว่างขสมก.และบมจ.ช ทวี มี 2 ประเด็นหลัก คือ 1.หากทำงานแล้วเกิดผิดสัญญาหรือทำงานต่อแล้วเกิดความเสียหายต่อองค์กร ขสมก.มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ซึ่งจะต้องดำเนินการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยขสมก.จะต้องดำเนินการให้ครบถ้วน

 

2.ในข้อ 22 ของสัญญาระบุว่า หากเกิดข้อพิพาทขึ้นระหว่างคู่สัญญาให้เชิญมาเจรจาและพูดคุย ในกรณีที่หารือแต่ยังไม่ได้ข้อยุติต้องเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก.วินิจฉัย โดยมีการเสนอต่อบอร์ดขสมก.พิจารณาเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งบอร์ดฯได้วินิจฉัยให้ดำเนินการตามคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายในการบอกเลิกสัญญาแก่บมจ.ช ทวี

 

 “เราในฐานะหัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่เร่งรัดตรวจสอบกระบวนการทุกอย่างให้ครบถ้วนและดำเนินการบอกเลิกสัญญา ส่วนเรื่องความเสียหายและการยึดหลักประกันสัญญาในรายละเอียดต่างๆต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามสัญญา เพราะบมจ.ช ทวี ทำผิดสัญญา ที่ผ่านมาขสมก.ได้ดำเนินการหักหลักประกันสัญญาอย่างต่อเนื่อง คาดว่ามูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านบาท จากหลักประกันสัญญาที่ระบุไว้ ซึ่งตามสัญญา ระบุว่าขสมก.มีสิทธิเรียกร้องมูลค่าความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นแก่คู่สัญญาได้ คาดว่าจะลงนามบอกเลิกสัญญาแก่บมจ.ช ทวี แล้วเสร็จ ภายในสัปดาห์นี้”

“มนพร”กางแผนเช่ารถเมล์ NGV เคลียร์ปมสหภาพฯจี้ปลด ผอ.ขสมก.

ปรับแผนเส้นทางเดินรถใหม่

 ขณะที่ประเด็นรถโดยสารที่จอดเสียต้องไม่กระทบต่อประชาชนนั้น ตนและคณะผู้บริหารชุดปัจจุบันได้หารือร่วมกัน เห็นว่าการบริการรถสาธารณะมีความสำคัญมาก ดังนั้นขสมก.ได้มีการปรับแผนเวลาการเดินรถ โดยโยกย้ายจำนวนรถและเส้นทางเดินรถที่มีผลกระทบน้อย รวมทั้งเส้นทางที่ไม่มีรถวิ่งให้บริการ เพื่อให้ประชาชนได้เดินทาง นอกจากนี้ขสมก.ได้มีการเชิญกลุ่มผู้ใช้รถโดยสารเป็นประจำหรือกลุ่ม Bus Fan เข้ามาร่วมประชุมเพื่อหารือถึงปัญหาร่วมกันในการย้ายสายรถโดยสารหรือโยกย้ายรถเพิ่มเติม ซึ่งขสมก.ได้เริ่มดำเนินการโยกย้ายสายรถเมล์เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

 ทั้งนี้ขสมก.ได้มีการประเมินผลหลังจากดำเนินการปรับแผนการเดินรถ พบว่า ก่อนที่รถโดยสารจอดเสียมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการ 650,000 คน ส่วนการดำเนินการหลังจากขสมก.ได้โยกย้ายสายเดินรถ ภายหลังจากรถเสียยังมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการ 630,000 คน ถือเป็นสถิติปริมาณผู้โดยสารที่ใกล้เคียงกับในช่วงก่อนรถโดยสารจอดเสีย