"นภินทร-สุชาติ" รมช.พาณิชย์ แบ่งงานลงตัว ทำงานเป็นหนึ่งเดียว

08 พ.ค. 2567 | 08:41 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ค. 2567 | 09:16 น.

นภินทร-สุชาติ รมช.พาณิชย์ แบ่งงานลงตัวดูแลคนละ 3 หน่วยงาน รัฐมนตรีมาจาก 3 พรรคการเมืองยันทำงานเป็นหนึ่งเดียว

วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ที่กระทรวงพาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ได้ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ครบรอบ 82 ปี และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เปิดเผยว่า การแบ่งงานในส่วนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเดิมทีตนดูแล 6 หน่วยงาน และ ได้มีการหารือร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว โดยหน่วยงานที่ตนยังคงรับผิดชอบ ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญาและสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT

ส่วนนายสุชาติ รับผิดชอบ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD

“ขอยืนยันได้ว่า แม้กระทรวงพาณิชย์ ที่มีรัฐมนตรีมาจาก 3 พรรคการเมือง คือ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่เป็นกระทรวงเดียว การทำงานจะเป็นหนึ่งเดียวกันและจะร่วมกันทำงาน สามารถทำงานประสานกันได้ ทำอย่างไรให้กระทรวงพาณิชย์เดินไปข้างหน้า และทำงานให้กับบ้านเมืองได้ เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะมาจากต่างพรรคก็เป็นหนึ่งเดียวในการทำงานได้ ” นายนภินทร กล่าว

นายนภินทร กล่าวต่อว่า สำหรับงานในส่วนของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่นายสุชาติ เป็นผู้ดูแล ต่อนั้น เชื่อว่าจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เพราะผ่านงานมาหลายอย่าง เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน รู้งานต่างประเทศได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะประเทศไหนต้องมีแรงงานอย่างไรเข้าไป ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เนื้องานก็น้องๆของกระทรวงแรงงาน เชื่อว่านายสุชาติจะสามารถนำกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้เป็นอย่างดี ในการสร้างผลงานให้กับกระทรวงพาณิชย์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ กล่าวว่า ขอบคุณทั้ง 2 คน ทั้งนายภูมิธรรม และ นายนภินทร ที่ให้โอกาสได้ทำงานในกระทรวงพาณิชย์ เรื่องหน่วยงานที่แบ่ง เหมือนพี่น้องกัน ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะตนถือเป็นน้องเล็ก เป็นน้องใหม่ของกระทรวงต้องเรียนรู้งาน พร้อมจะทำงานสนองนโยบายรัฐบาล สนองนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯภูมิธรรม

ได้พูดคุยกันแล้วว่าทุกกรมทำงานร่วมกันหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มองเรื่องพรรคการเมือง แต่จะมองเรื่องการดูแลปากท้องพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ดูแลให้ผู้ประกอบการไทยออกไปในต่างประเทศได้ เชื่อว่าเศรษฐกิจของชาติจะดีได้ กระทรวงพาณิชย์จะต้องเป็นหลัก ” นายสุชาติ กล่าว

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ จากนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ไม่หนักใจอะไร เพราะต้องดูแลในเรื่องของปากท้องประชาชน ตอนอยู่กระทรวงแรงงาน ก็ดูในเรื่องของความมั่นคงและความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงาน เรื่องของกระทรวงพาณิชย์ เป็นเรื่องของภาพรวมประเทศ เรื่องของเศรษฐกิจนำเข้า ส่งออกเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันค่าครองชีพของแต่ละคนของแต่ละวัน ส่วนนี้เป็นหลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้นโยบายไว้แล้วว่า จะต้องทำให้ทุกอย่างมีความสมดุลประชาชนร่วมถึงคู่ค้าอยู่ได้

“ค่าแรง 400 บาทถือเป็นนโยบายของรัฐบาล จำเป็นต้องปรับเข้าหากันเชื่อว่ามีวิธีการดูแล ซึ่งทั้งนายกฯและรองนายกฯภูมิธรรม ดูแลเรื่องของค่าครองชีพประชาชนอยู่แล้ว หากกลัวค่าครองชีพสูงขึ้น เราก็มีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว ในส่วนของภาคเอกชน เชื่อว่าหากค่าแรงขึ้นก็ยังสามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้ แต่ค่าครองชีพเราต้องดูแล” นายสุชาติกล่าว