นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจดาวเด่นที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น ที่น่าสนใจและสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยใน 4 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-เมษายน) มีธุรกิจผลิตภาพยนตร์ที่จดทะเบียนนิติบุคคลจำนวน 56 ราย เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และทุนจดทะเบียน 195.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146.44% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และในปี 2566 มีจำนวน 137 ราย ทุนจดทะเบียน 258 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 20%
ทั้งนี้ ในปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 12,895.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 และมีแนวโน้มที่จะมีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมาช่วยสนับสนุน แต่ที่สำคัญเป็นการปรับตัวของธุรกิจในอุตสาหกรรมหนังไทยให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและบริบทของสังคมไทย ที่มีการเปิดกว้างในความหลากหลายทางเพศมากขึ้น โดยพระเอกที่มาช่วยพัฒนาวงการนี้คือ ซีรีส์วาย เป็น คอนเทนต์ที่สื่อถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ได้จำกัดเพศ เปิดกว้างในการนำเสนอความรักในรูปแบบต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
ซีรีส์วายสามารถสร้างมูลค่าในธุรกิจผลิตภาพยนตร์ให้กลับมา สร้างกำไรได้อย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างเม็ดเงินขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโฆษณา การสร้างมูลค่าจากตัวนักแสดงให้ไปเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิด ธุรกิจจัดกิจกรรม (Event) และธุรกิจท่องเที่ยว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ผลิตซีรีส์วายกว่า 177 เรื่อง สามารถสร้างกระแสความนิยมเรื่อยมาและขยายกลุ่มลูกค้าในวงกว้างจนสามารถส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศได้