นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีรถไฟหัวหิน ในวันที่ 14 มิถุนายน 2567 เพื่อติดตามความคืบหน้าการเปิดการเดินรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ระหว่างสถานีนครปฐม - คูบัว การก่อสร้างทางคู่ สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล และเยี่ยมชมสถานีรถไฟหัวหิน
“หลังจากที่ได้มอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ให้ดำเนินนำเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัย มาใช้กับการดำเนินภารกิจของหน่วยงานอย่างสร้างสรรค์ ให้เป็นองค์กรที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนเกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นฟันเฟืองหลักในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ เป้าหมายสำคัญจะต้องทำให้ รฟท. กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถขับเคลื่อนระบบการขนส่งทางรางของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ขณะเดียวกัน ให้ รฟท. เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในเส้นทางท่องเที่ยวให้สามารถจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกกับนักท่องเที่ยว เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน และได้เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟสายใหม่ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จตามแผนงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางรางให้เป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงทุกภูมิภาค รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศด้วย
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 รฟท. ได้เปิดให้บริการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จังหวัดชุมพร ระยะทาง 347.4 กิโลเมตร
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา รฟท. ได้เปิดใช้งานรถไฟทางคู่สายใต้ เพิ่มอีก 72.6 กิโลเมตร ระหว่างสถานีนครปฐม - บ้านคูบัว ระยะทาง 57 กิโลเมตร และสถานีสะพลี - ชุมพร ระยะทาง 15.6 กิโลเมตร ทำให้ รฟท. สามารถเปิดใช้รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร ได้ตลอดเส้นทาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 420 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วยระบบรถไฟทางคู่ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงต่อเวลา สามารถเชื่อมต่อการขนส่งและเส้นทางท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของพื้นที่และประเทศได้เป็นอย่างดี