ราชกิจจาฯ ออกระเบียบจ่ายเงินอุดหนุนรถอีวี แพ็คเกจ EV 3.5 สูงสุด 1 แสน/คัน

22 มิ.ย. 2567 | 05:46 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2567 | 12:15 น.

ราชกิจจานุเบกษา ระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ งบเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV3.5 จ่ายเงินอุดหนุนรถอีวี สูงสุด 1 แสน/คัน

ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 เผยแพร่ ระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ งบเงินอุดหนุนตาม มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ระยะที่ 2 พ.ศ.2567 โดยมีสาระสำคัญ คือการเบิกจ่ายงบประมาณ เงินอุดหนุน ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 (EV3.5)

ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 (EV3.5) ตามมติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (ที่จะมีผลบังคับในช่วงปี 2567-2570 โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

โดยมีการกำหนดรายละเอียด และสิทธิประโยชน์สำหรับรถยนต์แต่ละประเภท ดังนี้

รถยนต์นั่ง (ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท) 

รถยนต์นั่ง ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมมาตรการจะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้         

1.สิทธิเงินอุดหนุน

ขนาดแบตเตอรี่ ตั้งแต่ 10 kwh แต่น้อยกว่า 50 kwh

  • ปี 2567 จะได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คัน
  • ปี 2568 จะได้รับเงินอุดหนุน 35,000 บาท/คัน
  • ปี 2569 - 2570 จะได้รับเงินอุดหนุน 25,000 บาท/คัน (เฉพาะที่ผลิตในประเทศเท่านั้น)

ขนาดแบตเตอรี่ ตั้งแต่ 50 kwh ขึ้นไป

  • ปี 2567  จะได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน
  • ปี 2568 จะได้รับเงินอุดหนุน 75,000 บาท/คัน
  • ปี 2569 - 2570 จะได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คัน (เฉพาะที่ผลิตในประเทศเท่านั้น)

2. สิทธิลดอัตราอากรขาเข้าไม่เกิน 40% (สำหรับรถที่มีการนำเข้าในช่วงปี 2567 - 2568)

3. สิทธิลดภาษีสรรพสามิต จาก 8% เหลือ 2% ในปี 2567 - 2570

รถยนต์นั่ง (ราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 7 ล้านบาท) 

รถยนต์นั่ง ราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 7 ล้านบาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kwh ขึ้นไป จะได้รับสิทธิลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2%

รถกระบะ 

เฉพาะรถกระบะ ที่ผลิตภายในประเทศ และราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kwh ขึ้นไป จะได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน และได้รับสิทธิลดอัตราภาษีสรรพสามิตเหลือ 0% ในปี 2567 - 2568 และอัตราภาษี 2% ในปี 2569 - 2570

รถจักรยานยนต์ 

เฉพาะรถจักรยานยนต์ ที่ผลิตภายในประเทศ และราคาไม่เกิน 150,000 บาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kwh ขึ้นไป จะได้รับเงินอุดหนุน 10,000 บาท/คัน  และได้รับสิทธิลดอัตราภาษีสรรพสามิต เหลือ 1% ในปี 2567 - 2570

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการนี้ ต้องผลิตรถยนต์เพื่อชดเชยการนำเข้าภายในปี 2569 ในอัตราส่วน 1 : 2 ของจำนวนนำเข้าในช่วงปี 2567 – 2568 (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 2 คัน) หรือผลิตชดเชยการนำเข้าภายในปี 2570 ในอัตราส่วน 1 : 3 (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 3 คัน) เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ และผลักดันไทยให้เป็นฮับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค

อ่าน : ระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ งบเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ระยะที่ 2 พ.ศ.2567