“สุรพงษ์” ดันภูเก็ตโมเดลเชื่อม 2 สนามบิน ดึงนักท่องเที่ยว

24 มิ.ย. 2567 | 10:44 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2567 | 10:50 น.

“สุรพงษ์” สั่งตั้งคณะทำงานลุยภูเก็ตโมเดล เร่งบวท.-ทอท.แก้ปัญหาผู้โดยสารหนาแน่น รองรับจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ พร้อมยกระดับศักยภาพการคมนาคมทางอากาศ จ.เชียงใหม่

นายสุรพงษ์  ปิยะโชติ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นเป็นประธานการประชุมหารือการบูรณาการความร่วมมือยกระดับศักยภาพการคมนาคมทางอากาศว่า กระทรวงฯได้มอบหมายให้บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) แก้ไขปัญหาพื้นที่ให้บริการผู้โดยสารหนาแน่น

 

โดยร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. บริหารจัดการการจราจรทางอากาศ เพิ่มการรองรับจำนวนเที่ยวบินให้มากขึ้น โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้สามารถบริหารจัดการจราจรทางอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 
 

ทั้งนี้ให้บวท. ร่วมกับ ทอท. และกระทรวงคมนาคมจัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำภูเก็ตโมเดลโดยเร็วต่อไป และมอบให้ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม พิจารณาหาแนวทางการเดินทางเชื่อมต่อในทุกมิติระหว่างท่าอากาศยานภูเก็ตและท่าอากาศยานกระบี่ ให้มีความรวดเร็ว เพื่อลดความแออัดที่ท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

  “สุรพงษ์” ดันภูเก็ตโมเดลเชื่อม 2 สนามบิน ดึงนักท่องเที่ยว

ส่วนการเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ ทอท. พิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์พื้นที่ของ บวท. ที่อยู่ในบริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่มาจัดทำเป็นพื้นที่ให้บริการผู้โดยสาร เพื่อระบายความแออัดคับคั่งในช่วงเวลาเร่งด่วน

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตามนโยบาย Aviation Hub ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคของรัฐบาล โดยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก

“สุรพงษ์” ดันภูเก็ตโมเดลเชื่อม 2 สนามบิน ดึงนักท่องเที่ยว
 
“ได้สั่งการให้ บวท. บูรณาการความร่วมมือกับ ทอท. เพื่อยกระดับศักยภาพการคมนาคมทางอากาศจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ ทอท. ได้รายงานความคืบหน้าการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ ณ ท่าอากาศยานร่วมกับ บวท. อาทิ การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยทอท. พร้อมลงทุนและบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนสู่ Aviation Hub ตามนโยบายรัฐบาล 

 

นอกจากนี้ บวท. ได้รายงานสภาพการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ และความคืบหน้าการก่อสร้างหอควบคุมการจราจรทางอากาศ ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ เนื่องจากอาคารหอควบคุมฯ เดิมใช้งานมานาน พื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอ

 

เพื่อรองรับระบบอุปกรณ์ในอนาคต ลดความเสี่ยงจากภัยแผ่นดินไหว และรองรับระบบปฏิบัติการสำรองแบบต่างพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ (Offsite Backup) ทั้งนี้ คาดว่าหอควบคุมการจราจรทางอากาศ จะสามารถเปิดใช้งานได้ปลายปี 2567