การบินไทยแจงแล้วกรณีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน ขณะรอวิ่งขึ้นรันเวย์

จากกรณีเกิดเหตุผู้โดยสารชาวต่างชาติเปิดประตูเครื่องบินของการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 ระหว่างกำลังเทคออฟออกจากสนามบินเชียงใหม่เมื่อ เวลา 21.05 น. ของวันที่ 7 ก.พ.2567

ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 8 ก.พ.2567) การบินไทยชี้แจงกรณีเที่ยวบินทีจี 121 เส้นทางเชียงใหม่ - กรุงเทพ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ทำการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ขณะเครื่องบินอยู่ระหว่าง line up เพื่อรอทำการวิ่งขึ้นบนรันเวย์ มีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน

หลังจากเจ้าหน้าที่ช่างได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขตามมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถ ออกเดินทางได้ในเวลา 00.34 น ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยผู้โดยสาร นักบินและลูกเรือ ทุกคนปลอดภัย

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนวานนี้มีรายงานข่าวว่าเกิดเหตุวุ่นวายที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อเที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) มีกำหนดออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 21.05 น.

ปรากฎว่าระหว่างที่เครื่องบินกำลังเริ่มบินขึ้นหรือเทคออฟ มีผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติรายหนึ่งเกิดอาการตกใจ หรือแพนิค ลุกขึ้นผลักลูกเรือไปเปิดประตูเครื่องบิน ทำให้สไลด์กางออกมา เครื่องบินต้องจอดบนหัวทางวิ่ง หรือรันเวย์หมายเลข 36

สำหรับเครื่องบินที่ทำการบินในช่วงดังกล่าว คือเครื่องบินแอร์บัส A320-232 ทะเบียน HS-TXC นามพระราชทาน หนองบัวลำภู ซึ่งเคยใช้ทำการบินสายการบินไทยสมายล์เดิม ก่อนโอนย้ายไปยังการบินไทย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เที่ยวบินอื่นที่กำลังจะลงปลายทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ บางเที่ยวบินต้องย้ายไปลงที่ท่าอากาศยานอื่นชั่วคราว เช่น เที่ยวบินสายการบินโคเรียนแอร์ เที่ยวบินที่ KE667 อินชอน-เชียงใหม่ ต้องย้ายไปลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือเที่ยวบินสายการบินเจจูแอร์ เที่ยวบินที่ 7C4257 ปูซาน-เชียงใหม่ ต้องย้ายไปลงจอดที่ท่าอากาศยานวัตไต นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว

ส่วนเที่ยวบินขาออกทำการบินได้ โดยใช้รันเวย์อื่นในระยะทางที่สั้นลง

ต่อมาเครื่องบินดังกล่าวได้กลับมาจอดที่หลุมจอด ก่อนที่ตำรวจจะมารับตัวผู้โดยสารที่ก่อเหตุลงจากเครื่องเพื่อดำเนินคดี และให้ผู้โดยสารที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติออกจากเครื่องมาที่อาคารผู้โดยสาร ฝั่งขาออกอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ผู้โดยสารทุกคนเข้าพักที่โรงแรมชั่วคราว เพื่อรอเครื่องออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ในวันถัดไป

ส่วนเที่ยวบินขาเข้า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เปิดให้สามารถลงจอดได้ตามปกติ โดยมีเที่ยวบินของสายการบินเจจูแอร์ เที่ยวบินที่ 7C4205 อินชอน-เชียงใหม่ ลงจอดเมื่อเวลา 22.53 น. ตามมาด้วยสายการบินจุนเหยาแอร์ เที่ยวบินที่ HO1325 เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ ลงจอดเมื่อเวลา 22.58 น. และสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD140 ดอนเมือง-เชียงใหม่ ลงจอดเมื่อเวลา 23.02 น. ก่อนที่เที่ยวบินอื่นๆ จะทยอยตามมา ส่วนเที่ยวบินขาออกสามารถทำการบินด้วยรันเวย์ปกติได้แล้ว

ขณะที่เที่ยวบินที่ลงจอดสนามบินอื่น (Divert) เช่นสายการบินโคเรียนแอร์ เที่ยวบินที่ KE667 ได้ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 00.15 น. ที่ผ่านมา ส่วนสายการบินเจจูแอร์ เที่ยวบินที่ 7C4257 ได้ออกจากท่าอากาศยานวัตไต ประเทศลาว เมื่อเวลา 00.10 น. ที่ผ่านมา 

ขณะที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เผยว่าเมื่อเวลา 22.05 น. ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ท่าอกาศยานได้รับแจ้งเหตุจากหอบังคับการบินว่า เครื่องบินของการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 ให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Airbus A320-200 ซึ่งกำลังจะวิ่งขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

เกิดเหตุผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน ทำให้สไลด์กางออก ส่งผลให้เครื่องบินไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ และขวางทางวิ่ง ทำให้เรื่องบินขาเข้าและขาออกไม่สามารถทำการบินเข้าและออกจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง

หลังจากรับแจ้งเหตุ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ได้ประสานไปยังฝ่ายช่างอากาศยานของการบินไทย เพื่อเข้าทำการปลดสไลด์ออก แล้วจึงนำอากาศยานมาเข้าจอด ณ หลุมจอดหมายเลข 15 และทำการเปิดทางวิ่งให้อากาศยานทำการบินขึ้นลงได้ตามปกติเมื่อเวลา 22.50 น.

ผู้โดยสารในเที่ยวบิน TG121 ได้รับการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ของสายการบินและเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยาน และเชิญไปพักผ่อน ณ อาคารผู้โดยสาร ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย และสามารถออกเดินทางได้อีกครั้งในเวลา 00.48 น. ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์

เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบมากถึง 13 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินขาเข้า 10 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออก 3 เที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินขาเข้าจำนวน 2 เที่ยวบิน ที่ต้องเปลี่ยนไปลงยังท่าอากาศยานสำรอง ส่งผลให้มีผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบมากถึง 2,296 คน 

ด้านท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขึ้นในวันนี้ โดยมีผู้แทนจากสายการบิน ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าร่วมประชุม และได้มีการหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงค่ำที่ผ่านมา พร้อมทั้งทบทวนแนวทางและเตรียมมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้น