"กรมเจรจาฯ" กางแผนงานครึ่งปีหลัง เร่งถก FTA ไทย-EFTA ภายในปีนี้

01 ก.ค. 2567 | 04:38 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ค. 2567 | 04:56 น.

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยลุยครึ่งหลังปี 67 เร่งสรุปผลการ เจรจา FTA ไทย-EFTA ภายในปีนี้ พร้อมใช้เวที JTC ถกแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า ชี้ช่องผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ FTA ขยายโอกาสการค้าและการลงทุน

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) และการประชุมระหว่างประเทศ ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ว่า กรมได้มุ่งการเจรจาเชิงรุกเพื่อเร่งรัดหาข้อสรุป FTA ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA)และผลักดัน FTA ที่อยู่ระหว่างการเจรจา อาทิ ไทย-สหภาพยุโรป (EU) อาเซียน-แคนาดา 

และ FTA 2 ฉบับใหม่ คือ ไทย-เกาหลีใต้ และไทย-ภูฏาน รวมทั้งผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย สำหรับการเจรจา FTA ไทย-EFTA กรมได้ตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าหมายจะถือเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยทำกับประเทศในทวีปยุโรป 

ขณะที่การเจรจา FTA ไทย-EU และอาเซียน-แคนาดา กรมฯได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้การเจรจามีความคืบหน้าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไทย โดยจะมีการหารือ FTA ทั้งสองฉบับนี้อย่างเข้มข้น เพื่อเร่งหาข้อสรุปร่วมกันให้ได้มากที่สุด 

ด้านการเจรจา FTA กับกลุ่มประเทศEU และ EFTA ถือว่ามีความท้าทายมาก เนื่องจากมีประเด็นใหม่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน แต่หากสามารถสรุปผลการเจรจาได้จะเป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยที่จะขยายการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศยุโรปได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ ไทยยังผลักดันการเจรจายกระดับความตกลงที่มีอยู่เดิม เพื่อให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับรูปแบบการค้าในปัจจุบัน อาทิ 

  • ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA)
  • อาเซียน-จีน 
  • อาเซียน-อินเดีย 
  • ไทย-เปรู 
  • อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์

 

\"กรมเจรจาฯ\" กางแผนงานครึ่งปีหลัง เร่งถก FTA ไทย-EFTA ภายในปีนี้

ปัจจุบันไทยมี FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ สำหรับ FTA ฉบับที่ 15 ของไทย คือ FTA ไทย-ศรีลังกา ได้ลงนามความตกลงไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และคาดว่าจะมีผลใช้บังคับภายในปีนี้

นางสาวโชติมา กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้กรมยังมีแผนใช้เวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) กับประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ มาเลเซีย บังกลาเทศ และจีน เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า และกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งไทยยังมีแผนจะหารือกับสหราชอาณาจักร (UK) และสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) เพื่อจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การจัดทำ FTA ร่วมกันในอนาคต

สำหรับในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค. 2567) การค้าของไทยกับ 18 ประเทศคู่ค้า FTA มีมูลค่า 145.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.1  โดยส่งออกไปประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 70.9 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 2.4 

และนำเข้าจากประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 74.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ2.0 สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ 

  • รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
  • อัญมณีและเครื่องประดับ 
  • น้ำมันสำเร็จรูป 
  • เม็ดพลาสติก 
  • เครื่องคอมพิวเตอร์ 
  • อุปกรณ์และส่วนประกอบ 

ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของไทย อาทิ 

  • เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ  
  • เคมีภัณฑ์ 
  • เหล็ก 
  • เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 
  • และแผงวงจรไฟฟ้า