สรรพสามิตปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ จ่อใช้อัตราเดียวสรุปสิ้นปีงบ 67

09 ก.ค. 2567 | 23:02 น.

สรรพสามิตปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ จ่อใช้อัตราเดียวสรุปสิ้นปีงบ 67 พร้อมพิจารณาภายใต้ 5 ประเด็นสำคัญ ชี้มีเพียง 7 ประเทศในโลกเก็บภาษีหลายอัตรา

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีบุหรี่ใหม่ คาดจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีงบประมาณ 2567 นี้ โดยปัจจุบันมีการแบ่งเก็บภาษีมูลค่าเป็น 2 ช่วงราคา ให้เหลือเป็นช่วงราคาเดียว ส่วนภาษีขาปริมาณบุหรี่ยังคงไว้อัตราเดียวเหมือนเดิม 

ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดเก็บเป็นไปตามหลักสากล  และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย เนื่องจากการศึกษาข้อมูลพบว่าที่ผ่านมาทั่วโลกมีการเก็บภาษีบุหรี่เป็นแบบอัตราเดียวเหมือนกันทั้งหมด ยกเว้น 7 ประเทศในโลกมีการเก็บภาษีบุหรี่หลายอัตราเหมือนกับไทย 

“ยกตัวอย่างได้แก่ อินเดีย อียิปต์ อุซเบกิสถาน ส่วนรายละเอียดจะปรับภาษีมูลค่าเป็นเท่าไร หรือมีการขึ้นภาษีขาปริมาณหรือไม่นั้น จะขอหารือกับผู้มีส่วนได้เสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อสรุป และเสนอให้กระทรวงการคลังเห็นชอบ ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีงบประมาณนี้”

สำหรับหลักการพิจารณาเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว กรมจะพิจารณา 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 

  1. ขนาดตลาดของบุหรี่ที่ลดลงทั่วโลก สวนทางปัญหาบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 
  2. ต้องคำนึงถึงเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในประเทศไทย จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 
  3. การเก็บภาษีบุหรี่เหลืออัตราเดียวต้องไม่กระทบกับการเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต 
  4. อัตราภาษีบุหรี่อัตราเดียวต้องเป็นสากลและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการในประเทศและผู้นำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ 
  5. ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของสุขภาพ ตามความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข

“หลังจากนี้ กรมสรรพสามิตขอหารือทั้ง 5 ภาคส่วน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ทุกคนรับได้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย“ 

ทั้งนี้ ปัจจุบันการเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ของไทย  มีการเก็บตามปริมาณ 1.20 บาทต่อมวน และเก็บตามมูลค่าแบ่งเป็น 2 อัตรา คือ  หากราคาขายปลีกแนะนำไม่เกินซองละ 72 บาท เสียภาษีตามมูลค่าในอัตรา 25% ส่วนบุหรี่ที่มีราคาขายปลีกแนะนำเกินซองละ 72 บาท เสียภาษีที่อัตรา 42%