สรรพสามิตเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ชู “แพร่โมเดล” ต้นแบบสุราชุมชน

07 ก.ค. 2567 | 06:35 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ค. 2567 | 06:35 น.

สรรพสามิต เตรียมออกโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิตแชมเปี้ยน” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน เดินหน้าสู่ความยั่งยืน ชู “แพร่โมเดล” ต้นแบบสุราชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะเดียวกัน กรมอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิตแชมเปี้ยน” เพื่อประกวดความร่วมมือของสรรพสามิตพื้นที่  และผู้ประกอบการ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยภาษีสรรพสามิต ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างมาตรฐานสากล (สินค้าและกระบวนการผลิตสุราชุมชน) มุ่งเน้น สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เดินหน้าชุมชนสู่ความยั่งยืน

ทั้งนี้ กรมมีนโยบายในการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ควบคู่กับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพสุราชุมชนให้มีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ผ่านการออกกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ที่ปลดล็อคกฎหมายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต

นอกจากนี้ ได้ออกมาตรการตามนโยบายของรัฐบาล ปรับลดอัตราภาษีสุราแช่พื้นเมือง ประเภท อุ กระแช่ สาโท โดยปรับอัตราภาษีตามมูลค่าจากเดิม 10% เป็น 0% เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ และสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ได้ส่งผลให้สุราชุมชนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจังหวัดแพร่ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างพื้นที่ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนและมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557-2566) พื้นที่แพร่จัดเก็บภาษีสุราชุมชนเฉลี่ย 443 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นกว่าร้อยละ 30 ของการจัดเก็บภาษีสุราชุมชนทั่วประเทศจนทำให้มีการเรียกจังหวัดแพร่ ว่าเป็น “มหานครแห่งสุราพื้นบ้าน” สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนภายในชุมชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังสร้างงาน สร้างรายได้ ให้พี่น้องในชุมชนตลอดห่วงโซ่การผลิต”

นายเอกนิติ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ และกรมสรรพสามิต ส่งเสริมให้สุราชุมชนจังหวัดแพร่เติบโตขึ้นมากอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในตัวอย่างวิสาหกิจชุมชนที่เติบโตอย่างมาก คือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสุราสักทองแพร่ ต. สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ โดยปัจจุบันมีกลุ่มผลิตสุรานับร้อยกลุ่ม มีผลิตภัณฑ์สุราชุมชนหลากหลาย ซึ่งใช้วัตถุดิบข้าวเหนียวจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและน้ำจากหล่มด้ง อุทยานแห่งชาติแม่ยม

ทั้งนี้ กรมจะมีการผนึกกำลังกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและผู้ประกอบการ ในด้านการเข้าถึงแหล่งทุน แหล่งความรู้ ด้านการตลาด พลังงาน สิ่งแวดล้อม คุณภาพสินค้า และการผลิต รวมถึงส่งเสริมและให้ความสำคัญในด้าน ESG เพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน และลดการใช้คาร์บอน เดินหน้าประเทศสู่ Net Zero

นอกจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนที่กรมสรรพสามิตให้ความสำคัญแล้ว กรมฯ ยังให้ความสำคัญกับการเข้าสู่ระบบของผู้ประกอบการ เพราะสินค้าปลอม หรือไม่ได้มาตรฐาน จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค และที่สำคัญการให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม และสังคม ในการลดการปล่อยคาร์บอน การใช้พลังงานทดแทน หรือการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเป็นสิ่งที่กรมให้ความสำคัญ

“สรรพสามิตพื้นที่จังหวัดแพร่ ได้ร่วมกับผู้ประกอบการทำบ่อหมักก๊าซชีวภาพ ที่เกิดจากการเก็บกักอุจจาระหมู โดยก๊าซชีวภาพนี้ จะมีการเพื่อใช้เป็นพลังงานในครัวเรือน พลังงานทดแทนในการผลิตสุรา รวมถึงพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ตำบลสะเอียบประสบกับปัญหากระแสไฟฟ้าตกบ่อย ซึ่งการดำเนินการนี้ นอกจากจะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคมแล้ว”