สืบเนื่องจากกรณี “อาจารย์วีระ” วีระ ธีระภัทรานนท์ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สภาผู้แทนราษฎร สัดส่วนพรรคก้าวไกล ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท วงเงิน 1.723 แสนล้านบาท
สำหรับเกษตรกร จำนวน 17 ล้านคน ซึ่งขณะนั้น ธ.ก.ส.อยู่ระหว่างทำหนังสือสอบถามไปยังกระทรวงการคลัง
อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานได้มีมติเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินและที่มาแหล่งของเงินในส่วนของ ธ.ก.ส.
โดยจะไม่ใช้เงินธ.ก.ส. แต่เปลี่ยนเป็นการบริหารจัดการเงินงบประมาณปี 67 และ ปี 68 แทน
สำหรับหนังสือของ ธ.ก.ส.ที่สอบถามไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาแนวทางดำเนินโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ดังนี้
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินโครงการ ไม่ทำให้สิ่งที่เตรียมการในคณะทำงานชุดต่าง ๆ และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับผลกระทบ กระทรวงการคลังควรเร่งรัดดำเนินการหารือข้อกฎหมายไปยังสำนักงานกฤษฎีกาโดยเร็ว เพื่อให้ได้ข้อยุติในส่วนนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับการดำเนินโครงการเป็นอย่างยิ่ง
ประกอบกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แตกต่างกับโครงการที่ผ่านมาที่แหล่งเงินทุนมาจาก ธ.ก.ส. แต่โครงการนี้แหล่งเงินที่มาจาก ธ.ก.ส.เป็น 1 ใน 3 ของแหล่งเงินทุน
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างถูกต้องควรให้ส่วนงานที่เป็นเจ้าของโครงการเป็นผู้จัดทำโครงการแล้วเสนอให้ครม.พิจารณา เมื่อครม.มีมติเห็นชอบแล้ว ธ.ก.ส.จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายใต้กฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังได้ตอบข้อสังเกต “อาจารย์วีระ” ถึงรูปแบบการจัดทำ scenario ในการจัดหาแหล่งเงินทุน ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ธ.ก.ส.มีสภาพคล่องเพียงพอรองรับ "การดำเนินงานปกติ" โดยมีสภาพคล่องส่วนเกินคงเหลือจากการดำเนินงาน 18,109 ล้านบาท