คลังยืดเวลาลดเงินส่งเข้ากองทุนแบงก์รัฐ แลกเงื่อนไขอุ้มลูกค้า 5 ล้านบัญชี

16 ก.ค. 2567 | 08:41 น.
อัพเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2567 | 08:42 น.

คลังเผยครม.ไฟเขียว ขยายเวลาลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนแบงก์รัฐ 4 แห่ง เหลือ 0.125%ต่อปี แลกเงื่อนไขออกมาตรการผ่อนปรนให้ลูกหนี้ 5 ล้านบัญชี มูลหนี้กว่า 1.18 ล้านล้าน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เห็นชอบการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (กองทุนฯ) ลงกึ่งหนึ่งจากร้อยละ 0.25 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.125 ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ของรอบการนำส่งเงินในปี 2567

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่งที่มีหน้าที่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ได้แก่

  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์
  • ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

 

ทั้งนี้ เป็นการปรับลดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจส่งผ่านการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงลูกหนี้นอกระบบ เพื่อให้โอกาสลูกหนี้ในการฟื้นตัวและกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติได้มากขึ้น

“กระทรวงการคลังได้สั่งการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่ง จัดทำมาตรการหรือโครงการเพื่อช่วยเหลือและผ่อนปรนภาระให้กับลูกหนี้ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือในช่วงเดือนมกราคม - ธันวาคม 2567 ประมาณ 5.04 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวม 1.18 ล้านล้านบาท”

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับลูกหนี้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตลูกหนี้และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากต่อไป