นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่า ขณะนี้กฎหมายการคำนวณยอดหนี้ใหม่ออกมาแล้ว หรือ เรียกว่า "พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566" ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างแจ้งลูกหนี้กยศ.ที่มีสิทธิได้รับเงินคืน ก่อนหน้าที่ที่เกิดความล่าช้าเพราะยังคำนวณยังไม่เสร็จ ตอนนี้เสร็จแล้ว คำสั่งก็คือให้แจ้งลูกหนี้กยศ.ถึงยอดเงินส่วนเกินที่จะได้รับคืนเงิน
“จะมีการแจ้งผ่านลูกหนี้กยศ.ว่า จะได้รับคืนเงินจำนวนเท่าไหร่ และให้ไปติดต่อกยศ. ซึ่งจะเริ่มแจ้งได้ทันที โดยมียอดรวม 2,100 ล้านบาทที่จะคืน หรือ ลูกหนี้กยศ.กว่า 170,000 กว่าราย ที่ต้องเร่งคืน และยังมีลูกหนี้กยศ.ที่ยอดหนี้ลดลงไปกว่า 2.7 ล้านราย ทำให้ผ่อนน้อยลง”นายชัยกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า ในวันนี้ (18 กรกฎาคม 2567) เวลา 14.00 น. นายลวรณ แสงสนิด ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าในการคำนวณยอดหนี้ใหม่ ที่กระทรวงการคลัง
รายงานเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 สาระสำคัญ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 1% ต่อปี กรณีผิดนัดชำระลดอัตราเบี้ยปรับเหลือไม่เกิน 0.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี
ทั้งนี้ กองทุนกยศ.จะนำยอดรับชำระเงินทุกรายการตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 มาคำนวณการรับชำระใหม่อีกครั้งและปรับข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำเงินที่ได้รับมาหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใดและเงินเพิ่มตามลำดับ และจะคำนวณเบี้ยปรับใหม่ จากเดิม 7.5% เหลือเพียง 0.5%