“จีน” รอดตัว ระบบวินโดวส์ล่มทั่วโลก กฎเหล็กบริการคลาวน์ บริษัทในประเทศคุม

จากเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows10 และ Windows 11 ตลอดจนระบบ cloud ของ Microsoft ทั่วโลกที่มีการติดตั้งระบบตรวจจับ Malware ยี่ห้อ CrowdStrike ได้ทำการอัพเดทระบบ และมีข้อผิดพลาดจนทำให้เครื่องเกิดอาการ "Blue Screen of Death" (BSOD) ใช้งานไม่ได้ไปทั่วโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน รวมถึงสายการบิน ธนาคาร และบริการด้านสุขภาพทั่วโลก รวมถึงประเทศได้รับผลกระทบในวงกว้างนั้น 

รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า วันที่ 19.07.2024 ปัญหาระบบ Microsoft ล่ม  สร้างความปั่นป่วนไปทั้งโลก  รวมทั้งไทย แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจีนมากเหมือนที่ประเทศอื่นโดน

แม้ว่าสายการบินจีนที่บินระหว่างประเทศอาจจะโดนกระทบบ้าง แต่ระดับดีกรีของความเดือดร้อนจะไม่ลามเป็นวงกว้างปั่นป่วน  ไม่ทำให้คนจีนเดือดร้อนไปทั่วแบบที่คนในประเทศอื่น ๆ ต้องเจอกับความโกลาหล (เมืองไทยโดนเป็นวงกว้าง  ลามไปถึงระบบในโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์)

ทั้งนี้ เนื่องจากบริการคลาวด์ของ Microsoft ในประเทศจีน เป็นการดำเนินการโดยบริษัทของจีน คือ 21Vianet ซึ่งมีการตั้งค่าแยกจากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ Microsoft ดังนั้น การทำงานของ Microsoft's services ในจีน จะแตกต่างไปจาก global version

ทั้งหมดนี้ เกิดจากรัฐบาลจีนออกกฎเหล็ก China's regulations on foreign cloud services กำหนดให้บริการคลาวด์จากต่างประเทศ ต้องดำเนินการโดยบริษัทของจีนเท่านั้น

ดังนั้น จีนรอดและไม่เดือดร้อนเหมือนคนอื่นจากปัญหาระบบ Microsoft ล่ม ก็เพราะมี Separate infrastructure และมี Independent configurations

คลิกดูฉบับเต็ม : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10229819926015811&id=1037140385&mibextid=NoJtEM&rdid=L5ZVcZxhyZWZs6Ew