สบน.ออกบอนด์ออมทรัพย์ 4 หมื่นล้านบาท รุ่น 5-10 ปี ชูดอกเบี้ยสูง

29 ก.ค. 2567 | 23:15 น.
อัพเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2567 | 23:43 น.

สบน.เตรียมออกบอนด์ออมทรัพย์ 4 หมื่นล้านบาท รุ่น 5-10 ปี ชูดอกเบี้ยสูง พร้อมเตรียมออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน 3 หมื่นล้านบาท ภายในก.ย.นี้

นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า สบน.เตรียมที่จะเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์ล็อตสุดท้ายในปีงบประมาณ 2567 ในเดือนส.ค.นี้ จำนวน 4 หมื่นล้านบาท โดยมีรุ่นอายุของพันธบัตร 5 ปี และ 10 ปี 

ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ยืนยันว่า ผู้ถือพันธบัตรจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดี และ จะไม่เห็นอัตรานี้ในอีก 5 ปีนับจากนี้ โดยสบน.จะประกาศอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น.

“ตามแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ในปีงบประมาณ 2567 นี้ จะอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท แต่สบน.ประเมินถึงความจำเป็นในการใช้เงินงบประมาณแล้วว่าเพียงพอ จึงลดวงเงินรวมเหลือ 8 หมื่นล้านบาท ทำให้เหลือวงเงินที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์ในปีนี้ เหลือ 4 หมื่นล้านบาท เราจะเปิดขายช่วงเดือนส.ค.นี้”

ส่วนแผนการออกพันธบัตรสกุลต่างประเทศนั้น ขณะนี้ สบน.จะชะลอการเสนอขายออกไปก่อน เนื่องจาก อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศกับในประเทศมีความแตกต่างกัน หากเสนอขายในช่วงนี้ จะทำให้รัฐบาลมีต้นทุนที่สูง และรวมถึง ค่าเงินบาทที่ปรับค่าอ่อนลงด้วย อย่างไรก็ดี ทางสบน.ยังคงเตรียมข้อมูลการเสนอขายพันธบัตรสกุลต่างประเทศไว้ เมื่อมีจังหวะที่ดีจะได้เสนอระดับนโยบายได้ทันท่วงที

ส่วนการเสนอขายพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน หรือ SLB นั้น เรามีแผนจะเสนอขายในวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ภายในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดปีงบประมาณ 2567 โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการนำตัวชี้วัดที่อิงกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากำหนดเรื่องของอัตราดอกเบี้ย สำหรับอายุพันธบัตรนั้น จะกำหนดที่ 15 ปี

ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณนี้ สบน.ประเมินการระดมทุนเพื่อนำมาใช้ในปีงบประมาณ 2567-2568 ว่า จะมีจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่จะมากระจุกตัวในช่วงใกล้สิ้นปีของปีงบประมาณ 2567 และการเบิกจ่ายงบประมาณต้นปี 2568 ซึ่งขณะนี้ สบน. ได้เตรียมแผนการระดมทุนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระทบต่อสภาพคล่องในตลาดเงิน

“ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เราได้เตรียมแผนที่จะระดมเงินให้กับรัฐบาลจำนวนมาก แต่ยืนยันจะไม่กระทบต่อสภาพคล่องของภาคเอกชนที่ต้องการระดมทุนในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างแน่นอน โดยเม็ดเงินที่จะลงไปมากในช่วงปลายปี เชื่อว่า จะทำให้จีดีพีปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”