นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยคดีให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า เราต้องยอมรับคำวินิจฉัยที่ออกมา แต่กลไกก็ต้องเดินหน้าต่อ โดยสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ประชุม เลือกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่ และเริ่มต้นตั้งคณะรัฐมนตรีอีกชุดหนึ่ง เพื่อมาทำงานก่อน ส่วนยังสามารถรักษาการได้หรือไม่ ขอไปตรวจสอบรายละเอียดกฎหมายอีกครั้ง
ส่วนจะมีผลกระทบต่อโครงการอื่นๆ ที่รัฐบาลดำเนินการ เช่น ดิจิทัล วอลเล็ตนั้น ยอมรับว่ามีผลกระทบแน่นอน เนื่องจากยังมีขั้นตอนคงค้าง ยังไม่ผ่านกระบวนการอนุมัติ โครงการจะสะดุดเป็นบางส่วน และกระบวนการหลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ จะมีขั้นตอนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ อีกครั้ง ของครม.ชุดใหม่ ต้องไปดูตรงนั้นว่านโยบายที่จะถูกบรรจุอยู่ในการนำแถลงต่อสภาฯ จะมีอะไรบ้าง
ขณะที่ไทม์ไลน์ การเดินหน้าโครงการดิจิทัล ที่จะเริ่มใช้จ่ายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้นั้น คงไม่สามารถไปทำอะไรตรงนั้นได้ จนกว่าจะมีความชัดเจน และไม่ทราบว่าตนจะได้กลับมารับตำแหน่งตรงนี้อีกหรือไม่
ส่วนโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย จะกลับมาสานต่อโครงการดิจิทัล วอลเล็ตหรือไม่ มองว่าโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายของพรรค ต้องรอฟังมติจากทางพรรคอีกครั้ง
“เราไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลรูปแบบใด พรรคใด ไม่สามารถตอบได้ และต้องมีขั้นตอนของทางพรรคการเมืองว่าจะนำนโยบายใดไปหารือ ในการประชุมกับพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น หากรัฐบาลมีเพื่อไทย แต่หากไม่มีก็จบ ส่วนกระบวนการฟอร์มรัฐบาลใหม่ขึ้นมา มองว่าไม่นาน เนื่องจากสภาฯ ต้องมีการบรรจุระเบียบวาระ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ต้องมีการเลือกนายกฯ คนใหม่”
ทั้งนี้ ในมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจนั้น ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ตัวเลขมีปัญหาอยู่ เมื่อประกอบกับเรื่องการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน ก็อาจจะทำให้การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจชะลอตัวในระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การเมืองยังไม่ถึงทางตัน เมื่อมีความชัดเจนขึ้นมาแล้ว สถานการณ์จะคลี่คลาย และกลับเข้ามาสู่ภาวะเศรษฐกิจปกติ
“การทำงานของตน ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้ทำอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาของประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถแก้ไขได้ในข้ามคืน มันอาจจะยังมีเรื่องคงค้างอยู่ และมีเรื่องใหม่ๆ มาตลอด เช่น ปัญหาสินค้าจีน เป็นการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีก็ตาม ก็ต้องมีการปรับนโนบาย ปรับตัว ในเท่าทัน เพราะโลกไม่หยุดรอเรา”