รายได้ต่อหัวคนไทย ในปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ต้อนรับรัฐบาลใหม่ ภายใต้การบริหารประเทศของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของไทย ภายหลังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของไทย ในช่วงไตรมาสที่ 2 รวมทั้งประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยตลอดทั้งปี 2567
ข้อมูลการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด ของสภาพัฒน์ ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าน่าจะเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2567 คาดว่า จะขยายตัวในกรอบที่แคบลงจากการประเมินครั้งก่อนนั่นคือ ขยายตัว 2.3-2.8% หรือมีค่ากลางของการขยายตัว 2.5% ซึ่งอัตราการขยายตัวนี้ จะมีผลต่อตัวเลขรายได้ต่อหัวคนไทย ปรับเพิ่มขึ้นมาด้วย
สำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross Domestic Product: GDP) โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลประชาชาติต่อหัว (Gross Domestic Product per capita) นั้นถือว่ามีความสำคัญ โดยถือเป็นการใช้เปรียบเทียบรายได้ต่อหัว ซึ่งแสดงถึงความกินดีอยู่ดี (Standard of living) ของประชากรในประเทศนั้น ๆ
ล่าสุดในการแถลงข่าวข่าว สศช. ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2567 ระบุข้อมูลแนวโน้มขนาด GDP ของไทยในปี 2567 คาดว่า จะอยู่ที่ 18.56 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งมีขนาดอยู่ที่ 17.92 ล้านล้านบาท และหากคิดเป็นดอลลาร์สหรัฐ ขนาด GDP ของไทย จะอยู่ที่ 5.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งมีขนาดอยู่ที่ 5.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนตัวเลข รายได้ต่อหัวคนไทย ปี 2567 คาดว่าจะมีอัตราดังนี้
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตัวเลข รายได้ต่อหัว ของคนไทยย้อนหลัง 3 ปี มีตัวเลขที่น่าสนใจ ดังนี้
ออกจากนี้หากนับเฉพาะช่วงที่นายเศรษฐา ทวีสิน นั่งเป็นนายกรัฐมนตรี จะพบว่า รายได้ต่อหัวคนไทย ในช่วงปี 2566 อยู่ที่ 255,879 บาทต่อคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 7,091 บาทต่อคนต่อปี