นโยบายรัฐบาล 2567 “แพทองธาร ชินวัตร” เตรียมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา 12 กันยายน 2567 หนึ่งในชุดนโยบายคือ “การปฏิรูประบบราชการไทย”
ท่อนหนึ่งในคำแถลงนโยบายของนายกฯแพทองธาร ระบุถึงนโยบายการปฏิรูประบบราชการว่า
รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิติธรรม (Rule of Law) และความโปร่งใส (Transparency) สร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ ใช้งบประมาณของรัฐน้อยที่สุดแต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการสร้างรายได้และสร้างโอกาสแก่ประเทศและประชาชน โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ให้เป็นทุนทางสังคมและทางความคิดที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ
รัฐบาลจะปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เปลี่ยนผ่านราชการไทยไปสู่ราชการทันสมัยในระบบดิจิทัล(Digital Government) ปรับขนาดให้มีความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการใช้งบประมาณและการปฏิบัติราชการ ปรับขนาด
และกำลังคนภาครัฐให้สอดคล้องกับภารกิจ เปลี่ยนผ่านรูปแบบการเกณฑ์ทหารไปสู่แบบสมัครใจ เน้นใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรภาครัฐเป็นคนดีและเก่ง มีคุณธรรม มุ่งมั่นและมืออาชีพโปร่งใสและตรวจสอบได้ส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะของรัฐและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมคิดตัดสินใจในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่น และการดูแลชุมชน
รัฐบาลจะยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น ปรับบทบาทภาครัฐเป็นการส่งเสริมสนับสนุน (Enable) การอำนวยความสะดวก (Facilitate) และการกำกับกฎกติกา (Regulate) เพื่อให้ประชาชนและเอกชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว พร้อมทั้งจะลดกฎหมายและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น (Ease of Doing Business) เพื่อไม่ให้ภาครัฐเป็นอุปสรรคของภาคธุรกิจหรือขัดขวางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ปรับเปลี่ยนบทบาทภาครัฐให้เป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุน (Enable) อำนวยความสะดวก (Facilitate) และกำกับดูแล (Regulate) มากกว่าการเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด
มุ่งพัฒนาการบริการภาครัฐให้สะดวก รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น โดยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business)
วางแผนปรับเปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารไปสู่ระบบสมัครใจ พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของกองทัพให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นต่อรัฐสภาว่า จะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมประสานพลังจากทุกภาคส่วน ทุกช่วงวัย และทุกความเชี่ยวชาญ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งตอบสนองสถานการณ์ปัจจุบันให้สำเร็จ
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศให้เจริญก้าวหน้า เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี นำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทยและประเทศไทย พร้อมทั้งสร้างความหวังและอนาคตที่ดีกว่าให้แก่ประเทศ
การปฏิรูปครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าและพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้