ในช่วงที่ผ่านมาจากการแบ่งงานของ “คมนาคม” ในยุครัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พบว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลหน่วยงานเพียง 8 หน่วยงานเท่านั้น ประกอบด้วย กรมทางหลวง (ทล.) ,กรมทางหลวงชนบท (ทช.),การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ,บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ,สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ,สถาบันฝึกอบรมระบบราง ,สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม แต่ในปัจจุบันยุครัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นั้น “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” มีหน่วยงานดูแลเพิ่มขึ้น อีก 1 หน่วยงาน คือ “การรถไฟแห่งประเทศไทย” หรือ รฟท.
จากรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ได้จัดโผครม.ชุดใหม่นิ่งแล้ว ล่าสุดกระทรวงคมนาคมมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นั่งควบรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตามเดิม โดยยังควง 2 รัฐมนตรีช่วย คือ นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ซึ่งมีการแบ่งงานใหม่
โดยนายสุริยะ ได้เอ่ยปากเองว่าจะเป็นคนขึ้นมาคุม “การรถไฟแห่งประเทศไทย” หรือ รฟท. แทนนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ที่เคยดูแลก่อนหน้านี้ แต่กลับผลักดันองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ปัจจุบันมีหนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการขอรับเงินอุดหนุนเชิงสังคมจากภาครัฐ (PSO) ในทุกๆปีขึ้นมาให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ดูแลแทนนางมนพร เจริญศรี
เป็นที่จับตาว่าการที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาดูหน่วยงานที่มีผลงานหนาแน่นอย่าง รฟท. ซึ่งมีงานที่เร่งก่อสร้างและเปิดประมูลในอนาคตหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา , รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ,โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ฯลฯ ตลอดจนโครงการรถไฟส่วนต่อขยายสายสีแดง ที่เร่งผลักดันเสนอต่อครม.แพทองธาร ซึ่งพบว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่เหล่านี้มีมูลค่ารวมกว่าแสนล้านบาท
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการเข้ามาดูแลของนายสุริยะในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะดันนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่เป็นลูกหม้อของตนในยุคก่อนที่เคยรับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้ามาสานงานต่างๆได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.เห็นชอบให้นายวีริศ เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่แทนนายนิรุฒ มณีพันธ์ ที่เกษียณอายุราชการ
หากการวางเกมของนาย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นตามแผน เชื่อว่าการเดินหน้าโครงการต่างๆจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ตามนโยบายของรัฐบาลแพทองธารที่เร่งรัดพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น