“เงินบาทแข็งค่า” คลังมองต่างชาติเชื่อมั่น แนะธปท.ดูแล

17 ก.ย. 2567 | 08:27 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2567 | 08:27 น.

คลังชี้ต่างชาติเชื่อมั่น ทำให้ “เงินบาทแข็งค่า” จากเงินทุนไหลเข้า รับกระทบส่งออก แนะธปท.บริหารอัตราแลกเปลี่ยนให้สมดุล คาดต้นปี 68 หุ้นไอพีโอกลับเข้าตลาดทุน

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งขึ้นในขณะนี้ มองว่าส่วนหนึ่งสาเหตุหลักมาจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาในประเทศ อย่างไรก็ตาม หากมองในมุมบวก คือ ความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุนในประเทศที่เริ่มมีการมองเห็นในระดับนานาชาติ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง

ส่วนการบริหารกรณีเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเร็วนั้น เป็นเรื่องที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องเข้ามาดูว่าจะมีมาตรการบรรเทาการแข็งค่าหรือไม่ ซึ่งผลกระทบหนึ่งจากการแข็งค่าของเงินบาทนั้น คือ การส่งออก

“ถ้าเงินทุนไหลเข้า เงินบาทก็ต้องแข็งค่าอยู่แล้ว แต่ว่า มากน้อยผมว่า บริหารจัดการได้ ซึ่งผลกระทบต่อการส่งออก มีอยู่แล้ว แต่เงินบาทอ่อนก็ดีต่อการนำเข้า ฉะนั้น ต้องมีจุดสมดุล”

อย่างไรก็ตาม หากมองในระยะสั้นนั้น เงินบาทที่แข็งค่า เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นที่มีต่อตลาดทุนที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน เงินบาทที่แข็งค่า ก็เคยเป็นโจทย์ที่รัฐบาลต้องแก้มาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนเรื่องการส่งออกก็ต้องไปดู อัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

สวนกรณีที่มีบริษัทหลายแห่งชะลอออกหุ้นไอพีโอในช่วงนี้นั้น มองว่าหุ้นไอพีโอน่าจะกลับเข้าตลาดทุนได้ประมาณต้นปี 2568 เพราะขณะนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามา

ทั้งนี้ สะท้อนจากเงินทุนที่ไหลเข้า หลังจากที่รัฐบาลได้ทยอยออกมาตรการกระตุ้นตลาดทุน ทั้งการเปิดขายหน่วยลงทุนวายุภักษ์ที่จะมีเม็ดเงินเข้าตลาดทุนอีก 1.5 แสนล้านบาท มาตรการทางภาษีที่เข้าไปสนับสนุนการลงทุนในหน่วยลงทุน Thai ESG ที่มากกว่าเดิม

“วันนี้ ในฝั่งดีมานด์นั้น อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนที่จะต้องเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุน คือ คุณภาพของตลาดทุน ทั้งในฝั่งการกำกับ การดูแลนักลงทุน และเรื่องของราคาหุ้นที่จะเข้าตลาดนั้น จะต้องสะท้อนความเป็นจริง ดังนั้น เรามองว่าแม้ระยะที่ผ่านมา หุ้นไอพีโอจะชะลอการเข้ามาในตลาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะหายไป แค่รอจังหวะ ดังนั้น เชื่อว่า จังหวะจะเข้ามาแล้ว แค่รอให้สถานการณ์น้ำท่วมจบลง”