คลังชงตั้งบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ลุยแจกเงิน เฟส 2 “นายกฯอิ๊งค์” นั่งหัวโต๊ะ

17 ก.ย. 2567 | 07:32 น.
อัพเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2567 | 08:05 น.

คลังชงตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดูภาพรวมประเทศ 12 เดือนข้างหน้า พร้อมลุยเงินดิจิทัล เฟส 2 “แพทองธาร” นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ คาดสัปดาห์นี้แล้วเสร็จ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ส่งรายชื่อคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับรัฐบาล โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เบื้องต้น มีกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒน์ เป็นกรรมการ คาดจะเห็นการจัดตั้งแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้

สำหรับบทบาทคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะทำหน้าที่ดูรายละเอียดการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วง 12 เดือนข้างหน้า รวมทั้งพิจารณาเดินหน้าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต สำหรับกลุ่มทั่วไปด้วย

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง

“คณะกรรมการชุดนี้ จะเข้ามาแทนที่คณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ดูแลเรื่องโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งพ้นอำนาจไปตามอดีตนายกฯ ฉะนั้น เราจึงจัดตั้งกรรมการใหม่ และรอบนี้ไม่ได้ใช้ชื่อดิจิทัล วอลเล็ต เนื่องจากรายละเอียดโครงการค่อนข้างจำกัด จะเปลี่ยนเป็นคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ”

ทั้งนี้ คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะเข้ามาดูว่าประชาชนที่ลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ตไว้ มีทั้งหมดกี่คน และมีงบประมาณทั้งหมดเท่าใด จะสามารถดำเนินโครงการอะไรได้บ้าง ซึ่งอาจจะดำเนินโครงการที่ไม่ใช่เฉพาะการแจกเงินดิจิทัล หากมีเรื่องอื่นๆ กรรมการก็ต้องมาหารือคณะกรรมการชุดนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งแผนในการทำงานจะกว้างขึ้น

สำหรับเบื้องต้น ประชาชนที่มาลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ทั้งหมด 36 ล้านคน จะส่งรายชื่อดังกล่าวไปตรวจสอบคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และเมื่อลบกับกลุ่มเปราะบาง ที่รัฐดำเนินการจ่ายเงินให้รอบแรก 14.5 ล้านคนแล้ว ก็จะทราบจำนวนที่แท้จริง และคณะกรรมการก็จะมาดูรายละเอียดว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

“รายละเอียดการเดินหน้าแจกเงินดิจิทัล เฟส 2 จะเป็นอย่างไร จะจ่ายแบบไหน ก็หารือกันในกรรมการชุดนี้ เมื่อนายกฯ จัดตั้งเรียบร้อยแล้ว จะมีการประชุมนัดแรกทันที ทั้งนี้ กรรมการชุดดังกล่าว ยังจะดูมาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์รับเงินดิจิทัล เช่น ผ่านการมอบของขวัญปีใหม่ ที่ดำเนินการผ่านมาตรการภาษี เป็นต้น รวมทั้งการดูแลน้ำท่วมด้วย”