วันนี้ (24 กันยายน 2567) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเข้าร่วมงานครบรอบ 70 ปี เจโทร กรุงเทพฯ ว่า ได้หารือทวิภาคี กับนายอิชิกุโระ โนริฮิโกะ (Mr.ISHIGURO Norihiko) ประธานเจโทร ชักชวนนักลงทุนมาลงทุนในธุรกิจ PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์)ในไทย ซึ่งจะเป็นธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตและประเทศไทยมีศักยภาพ รัฐบาลพร้อมส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่น ซึ่งจะต่อยอดไปเป็นเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานสูง
ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับ อว.ในการเทรนคนรองรับการเจริญเติบโตไว้ล่วงหน้าแล้ว และขอบคุณที่ได้ร่วมการจัดงานประชุม Asian Trade Promotion Forum (ATPF) เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนจากประเทศและเขตเศรษฐกิจที่เป็นสมาชิกมาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเรื่องซอฟต์พาวเวอร์เป็นประเด็นการค้าที่สำคัญ และทางไทยยินดีที่จะเข้าร่วมงาน World Expo 2025 Osaka Kansai ประเทศญี่ปุ่น ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 เม.ย.-13 ต.ค.2568 และพร้อมเป็นพันธมิตรความร่วมมือในด้านต่างๆต่อไป
สำหรับเจโทร กรุงเทพฯ ถือเป็นสาขาหนึ่งของสำนักงานเจโทรต่างประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ 76 แห่งทั่วโลก เจโทร กรุงเทพฯ เป็นศูนย์ส่งเสริมธุรกิจแห่งแรกที่จัดตั้งขึ้นนอกประเทศญี่ปุ่น และเป็นศูนย์กลางของสำนักงานเจโทรในภูมิภาคเอเชีย ญี่ปุ่นถือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านที่สำคัญของไทย
รวมทั้งเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน มีสัดส่วนการลงทุนถึง 1 ใน 4 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด มีบริษัทญี่ปุ่นลงทุนในไทยเกือบ 6,000 ราย โดยลงทุนในอุตสาหกรรมชั้นนำอาทิ การผลิตเคมีภัณฑ์เพื่อการอุตสาหกรรม การผลิตพลังงานไฟฟ้า และการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับโทรคมนาคม
นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลขอแสดงความยินดีกับ เจโทร กรุงเทพฯ ในโอกาสครบรอบ 70 ปี ของการดำเนินงานในประเทศไทย และการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องของเจโทร กรุงเทพฯ ในการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ตลอดระยะเวลา 70 ปี ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย เจโทร กรุงเทพฯ จึงเปรียบเสมือนกัลยาณมิตรของคนไทยมายาวนาน
“ที่ผ่านมาเจโทร กรุงเทพฯ มีบทบาทและมีความสำคัญอย่างยิ่งกับเศรษฐกิจโลก ทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้นำการค้าอย่างเช่นทุกวันนี้ และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อปี 2015 จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถฟื้นฟูการลงทุนจากญี่ปุ่นได้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ยินดีร่วมมือทุกท่าน ไม่ว่าจะพบกับปัญหาอะไรก็ตามสามารถพูดคุยได้ ในนามของรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์พร้อมอำนวยความสะดวก”นายพิชัย กล่าว