อบจ.ภูเก็ต ลุยแผนท่องเที่ยวครบวงจร ดันรายได้ปี 67 พุ่ง 5 แสนล้าน

นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) เปิดเผยว่า จากศักยภาพที่หลากหลายของจังหวัดภูเก็ต สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การขนส่ง และศูนย์กลางการบินของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งชายฝั่งทะเลอันดามัน ในส่วนของ อบจ.ภูเก็ตมีแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มการใช้จ่ายต่อคน และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น 

แผนแรก คือ การพลิกโฉมการขนส่ง แก้ปัญหารถติดสะสมในตัวเมือง โดยโครงการนำรถยนต์ไฟฟ้า ( EV) จำนวน 24 คัน มาใช้แทนรถโพถ้อง สีชมพู ของทาง อบจ.ภูเก็ต ที่ให้บริการมานานกว่า 10 ปี โดยให้บริการใน 3 เส้นทาง บวก 1 เส้นทาง  ประกอบด้วย

สายที่ 1 สายสีเหลือง เริ่มต้นที่สะพานหิน ไปสิ้นสุดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลภูเก็ต ระยะทาง 11 กิโลเมตร

สายที่ 2 ท่าเรืออ่าวฉลอง-ห้างซุปเปอร์ชีป หรือสายสีแดง ระยะทาง 18 กิโลเมตร สายที่ 3 ท่าเทียบเรือรัษฎา-สวนน้ำอันดามันดา หรือสายสีเขียว ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และบวกอีก 1 เส้นทางคือสนามบิน- หาดราไวย์ รวมระทางประมาณ 47 กิโลเมตร 

ทั้งนี้ได้ปรับการให้บริการให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ท่าเรือ โรงเรียน ชุมชน ย่านการค้า ย่านเมืองเก่ามากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ทั้งคนภูเก็ต และนักท่องเที่ยวคนไทย และต่างชาติ โดย 1 คันรองรับผู้โดยสารได้ 21 คน  ตั้งเป้าทดลองวิ่งเดือนต้นธันวาคมปีนี้

แผนต่อมา คือการพัฒนาเมือง โดยทางจังหวัดได้มีการย้ายเรือนจำประจำจังหวัดไปอยู่ที่สถานที่แห่งใหม่ ที่บ้านบางโจ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต แทนเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเดิม ทำให้พื้นที่ของเรือนจำเดิมว่าง จึงได้มีโครงการก่อสร้างเพื่อพัฒนาและอนุรักษ์พื้นที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิมเป็นสวนสาธารณะ เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ จิตใจให้ชาวภูเก็ต เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ สร้างปอดแห่งใหม่ให้จังหวัด

ทั้งนี้มีงบประมาณ 169.5 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงพื้นที่เรือนจำเก่าจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครภูเก็ตให้เป็นสวนสาธารณะ และเป็นสถานที่ออกกำลังกายแห่งใหม่ พร้อมด้วยที่จอดรถยนต์อีก 300 คัน รองรับรถยนต์ของประชาชนที่มาออกกำลังกายและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มาท่องเที่ยวยังย่านเมืองเก่าภูเก็ต เชื่อมโยงกับบริบทพื้นที่สีเขียวโดยรอบให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง เพื่อให้เกิดเป็นสวนสาธารณะของชาวภูเก็ตอย่างยั่งยืน บนพื้นที่ 33 ไร่

ล่าสุด ยังมีแผนการพัฒนาและปรับปรุงท่าเทียบเรือที่อยู่ในการดูแลของ อบจ.ภูเก็ต คือท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต โดยจะยกระดับเป็นท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) ใช้ระบบ AI คัดกรองผู้โดยสาร จัดระเบียบการจราจรบนสะพาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ และพร้อมรองรับการท่องเที่ยวทางทะเลของภูเก็ตให้มากที่สุด ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ของจังหวัดจาก 4.2 แสนล้านบาท เป็น 5 แสนล้านบาทในปีนี้

นอกจากนี้ จากที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งเป็นชุมชนขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น การท่องเที่ยวโดยชุมชนถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการนำเสนอประสบการณ์ที่หลากหลายให้แก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการชมเมือง การชิมอาหารพื้นถิ่น และการสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของจังหวัด ซึ่งจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักภูเก็ตในแง่มุมที่น่าสนใจแตกต่างออกไป