วันนี้ (26 ตุลาคม 2567) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจากการเข้ามาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศ ทำให้สังคมมีความกังวลว่าผู้บริโภคในประเทศจะได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งเข้ามาขายในประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จนเกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค และผู้ประกอบการ SME ของไทย
สำหรับองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ จะประกอบไปด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมการ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญ ทั้ง
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วนเพื่อบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ในการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไม่มีคุณภาพมาตรฐานจากต่างประเทศกับภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นได้กำหนดเป็น 5 มาตรการหลัก 63 แผนปฏิบัติการ ได้แก่
ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาสินค้านำเข้าสู่ตลาดที่ไม่ได้มาตรฐานและราคาต่ำ ในการป้องกันและกำกับดูแล ทั้งสินค้าและธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายควบคู่กับการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs และ e-Commerce ไทยปรับตัวได้ในโลกการค้ายุคใหม่ ควบคู่ไปกับการสร้างความสมดุลระหว่างระเบียบการค้าโลก คำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดของประชาชน
นายพิชัย กล่าวว่า นายกฯ ห่วงใยต่อปัญหาสินค้านำเข้าไม่มีคุณภาพมาตรฐานและธุรกิจต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปช่วยแก้ปัญหา โดยขับเคลื่อนผ่านกลไกภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อดำเนินการเชิงรุกในการติดตามและเร่งรัดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าให้มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนภายใน 3 เดือน โดยจะจัดประชุมนัดแรกในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าภายใต้คณะกรรมการดังกล่าวเพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน พร้อมทั้งพิจารณามาตรการทั้งในการป้องกันและส่งเสริมเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือร่วมกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน ไทย-จีน และขยายความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งได้เร่งรัด TEMU จัดตั้งบริษัทในไทยโดยเร็ว และขอให้จีนช่วยกำกับดูแลมาตรฐานสินค้าส่งออกที่มีให้เข้มข้นและประชาสัมพันธ์ข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้านำเข้าของไทยให้แก่ผู้ประกอบการจีนด้วย
ทั้งนี้ ทางการจีนยินดีให้ความร่วมมือกับไทยเต็มที่ เพื่อความสัมพันธ์อันดีของทั้ง 2 ประเทศ และยินดีสนับสนุนผู้ประกอบการไทย และSMEs เข้าไปเปิดตลาดขายสินค้าในจีน ทั้งผ่านงานแสดงสินค้าและช่องทางออนไลน์