จากกรณีที่ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เมื่อวานนี้ 11 พฤศจิกายน 2567 ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก รวมถึงรายการฟุตบอลเอฟเอ คัพ เป็นเวลา 6 ฤดูกาลด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2025-26 หรือฤดูกาลถัดไป มูลค่าของลิขสิทธิ์ทั้งหมดอยู่ที่ 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19,167,723,414 บาท
แน่นอนว่าการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ของ JAS ในครั้งนี้มีผลต่อ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด ในเครือ ทรู ในฐานะได้รับลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะเป็นรายเดียวที่คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเนื่องจากเป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกส่งผลให้ฐานสมาชิกรวมทั้งสิ้น 1.3 ล้านราย
ล่าสุด นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และ มีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ทรูวิชั่นส์ ได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) ฤดูกาลหน้า 2025-2028 โดยได้ยื่นข้อเสนอไปในราคาที่เหมาะสม แต่มีรายอื่นที่เสนอราคาสูงกว่าและ ได้รับสิทธิ์ไป
อย่างไรก็ตาม ทรูวิชั่นส์ ยืนยันว่าสมาชิกยังสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ผ่านทุกช่องทางของทรูได้อย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูกาลในเดือนพฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ผลจากการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น ทรูวิชั่นส์ มีความตั้งใจมาโดยตลอดที่จะให้ได้มาซึ่งคอนเทนท์ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ในครั้งนี้ทรูวิชั่นส์ก็ได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2025-2028 ซึ่งแม้ได้ยื่นข้อเสนอแข่งขันไปในราคาที่เหมาะสม แต่เนื่องจากมีผู้ร่วมประมูลรายอื่นเสนอราคาสูงกว่าจึงได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสำหรับฤดูกาลหน้าไป
อย่างไรก็ตาม สมาชิกทรูวิชั่นส์ยังคงสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ได้อย่างเต็มอิ่มจนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า (2568) รวมทั้งยังสามารถรับชมคอนเทนท์กีฬาฟุตบอลระดับโลกอื่น ๆ บนทรูวิชั่นส์ เช่น ลาลีกา,บุนเดสลีกา, ซาอุดิลีก, ซาอุดี คิงส์คัพ, เอลีก (ออสเตรเลียน ลีก), ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่ายูโรปา ลีก, ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก, เอฟเอคัพอังกฤษ รวมถึงฟุตบอลไทยลีก1 ไทยลีก2, ช้างเอฟเอคัพ และ รีโวคัพ
ผลจากการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น หรือความพึงพอใจของลูกค้าสมาชิก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนในคอนเทนท์ที่หลากหลายทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการความบันเทิงของสมาชิกทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังเดินหน้าพัฒนาบริการการรับชมผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเสริมประสบการณ์การรับชมคอนเทนท์ เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้าในทุก ๆ วันอย่างต่อเนื่องต่อไป.