วันนี้ (19 พฤศจิกายน 2567) เวลา 13.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยต้องจับตาที่ประชุมเตรียมหารือถึงเรื่องสำคัญเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ต่อเนื่องถึงปี 2568
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า รัฐบาลเตรียมใช้กลไกของคณะกรรมการชุดนี้ วางแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้เลื่อนการประชุมมาก่อนหน้านี้หนึ่งครั้ง โดยในครั้งนี้หน่วยงานต่าง ๆ เตรียมเข้ามารายงานสถานการณ์และเสนอแนวทางเบื้องต้นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อจะผลักดันออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับประชาชน
ทั้งนี้ในการหารือครั้งนี้ ที่ประชุมเตรียมที่จะพิจารณาข้อเสนอที่จะออกมาเป็นแนวทางในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจไทยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างเข้ามากระทบ จนอาจทำให้ไม่สามารถขยายตัวได้เต็มศักยภาพ โดยคาดว่ามาตรการที่จะออกมาครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการประคับประคองเศรษฐกิจได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องดูว่าที่ประชุมจะมีความเห็นว่าอย่างไร
อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังเตรียมนำกลไกการขับเคลื่อนการออกมาตรการต่าง ๆ ในลักษณะคล้าย ๆ กับบอร์ดเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ของรัฐบาลก่อน โดยอาจมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อมากลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนจะสรุปและเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
แหล่งข่าวระบุว่า ในการขับเคลื่อนการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งนี้ รัฐบาลจะมีกรอบวงเงินที่สามารถนำมาใช้เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เบื้องต้นประมาณ 187,700 ล้านบาท จากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ
แต่หากวงเงินในการดำเนินโครงการต่าง ๆ จากงบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ไม่เพียงพอ ก็ยังมีแหล่งเงินจากงบกลางรายการรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น รวมไปถึงเงินงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะตัดสินใจใช้เงินก้อนไหนออกมาก่อน
ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเบื้องต้นว่า จะมีมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ของขวัญปีใหม่ และหนึ่งในมาตรการสำคัญคือ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท จะเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะอยู่ภายใต้การหารือของคณะกรรมการชุดนี้ด้วย แต่ขอให้รอข้อสรุปอีกครั้ง
เช่นเดียวกับโครงการของกระทรวงอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาอีก เช่น โครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น