ประกาศลุย "1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ดัน Soft Power Food สู่ครัวโลก

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร" พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Soft Power Food กับการพัฒนาประเทศไทย” โดยมีรัฐมนตรี ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หน่วยงานภาคีเครือข่าย และสื่อมวลชนเข้าร่วม

ผลักดัน Soft Power ด้านอาหารไทย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้รับฟังแนวทางการขับเคลื่อน Soft Power อาหารไทยจากนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายสร้างงานกว่า 75,000 ตำแหน่ง และเพิ่มรายได้ให้เศรษฐกิจไทยกว่า 3,500 ล้านบาท ผ่านโครงการ "โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย : One Family One Soft Power: OFOS"

อาหารไทย สะท้อนวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อาหารไทยเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทรงพลัง สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของไทย โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนาฝีมือคนไทยให้เป็นเชฟมืออาชีพ พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยและส่งเสริมการส่งออก โดยเชฟที่ผ่านหลักสูตรจะสามารถเผยแพร่รสชาติไทยต้นตำรับสู่ระดับสากล

เป้าหมาย "ครัวของโลก"

นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการแช่แข็งและถนอมอาหาร เพื่อคงคุณภาพวัตถุดิบและรสชาติไทยแท้ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอาหารโลก โดยมุ่งมั่นพัฒนาทั้งระบบ ตั้งแต่เกษตรกรถึงภาคอุตสาหกรรม

นายกรัฐมนตรีได้แวะชิมน้ำกระเจี๊ยบผสมมะนาว พร้อมชื่นชมรสชาติ นอกจากนี้ยังนำหม้อแกงชีสเค้กรสทุเรียนจาก จ.เพชรบุรี กลับไปรับประทาน พร้อมกล่าวถึงความภาคภูมิใจในศักยภาพของอาหารไทย รัฐบาลไทยพร้อมผลักดัน Soft Power ด้านอาหารให้ก้าวไกล สร้างความมั่นคงทางอาหารและยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

“Soft Power ในเรื่องอาหาร เป็นสิ่งที่เหมือนกับการพูดแล้วทุกคนรู้จักได้ง่าย แต่จริง ๆ รายละเอียดในการพัฒนามีอีกมาก และอุตสาหกรรมอาหารสามารถเติบโตอย่างเต็มรูปแบบได้อีกมาก รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ และต้องขอบคุณกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันพัฒนาคุณวุฒิวิชาชีพ และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงรวมถึงหน่วยงานของภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ที่ร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมของอาหารไปด้วยกัน ผลักดันอุตสาหกรรมอาหารไปให้ไกลกว่านี้ ให้ดังทั่วโลกให้เขารู้จักคนไทย อาหารไทย เรามีดีอย่างไรบ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว