สภาพัฒน์ ส่งสัญญาณ 4 ปีหนี้รัฐเสี่ยงพุ่งเกินกรอบ พื้นที่การคลังวิกฤต

26 ธ.ค. 2567 | 07:32 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ธ.ค. 2567 | 07:32 น.

สภาพัฒน์ ส่งสัญญาณเตือน 4 ปี หนี้สาธารณะต่อ GDP สวนทางเก็บรายได้ เสี่ยงพุ่งเกินกรอบ พื้นที่ทางการคลังลดลง อาจไม่เพียงพอรองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจในอนาคต ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569 - 2572) ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐเสนอ ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยังได้เสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของครม. โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจ ดังนี้

สถานะทางการคลังตามแผนการคลังระยะปานกลางฉบับนี้ กำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้ 70% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใช้เป็นกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และสัดส่วนรายได้รัฐบาลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ยังคงต่ำกว่า 15% ขณะที่สัดส่วนงบประมาณรายจ่ายต่อ GDP เฉลี่ย 18.8%

จึงส่งผลให้พื้นที่ทางการคลังลดลง และอาจจะไม่เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในกรณีฐานจนทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ในระดับสูงเกินกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ และมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณรายจ่ายมากขึ้นในการประคับประคอง และแก้ไขปัญหา 

ดังนั้น การเร่งรัดการสร้างเสถียรภาพทางการคลังจึงมีความจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะการให้ความสำคัญต่อการลดขนาดการขาดดุลงบประมาณ รวมทั้งความชัดเจนในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลและการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ

รวมทั้งการจัดสรรงบชำระหนี้ของรัฐบาลให้สอดคล้องกับขนาดของมูลหนี้และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีงบประมาณ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือ 

ทั้งนี้เพื่อให้มีพื้นที่ทางการคลัง (Fiscal space) ที่เพียงพอสำหรับรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์สูง และการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในระยะถัดไปที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด

ข้อมูลแผนการคลังระยะปานกลาง

สำหรับแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569 - 2572) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดายละเอียด รายได้รัฐบาลสุทธิ งบประมาณรายจ่าย ดุลการคลัง หนี้สาธารณะคงค้าง และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สรุปได้ดังนี้

รายได้รัฐบาลสุทธิ

  • ปี 2569 อยู่ที่ 2.92 ล้านล้านบาท
  • ปี 2570 อยู่ที่ 3.10 ล้านล้านบาท
  • ปี 2571 อยู่ที่ 3.24 ล้านล้านบาท
  • ปี 2572 อยู่ที่ 3.39 ล้านล้านบาท

งบประมาณรายจ่าย

  • ปี 2569 อยู่ที่ 3.78 ล้านล้านบาท
  • ปี 2570 อยู่ที่ 3.86 ล้านล้านบาท
  • ปี 2571 อยู่ที่ 3.97 ล้านล้านบาท
  • ปี 2572 อยู่ที่ 4.09 ล้านล้านบาท

ดุลการคลัง

  • ปี 2569 ขาดดุล 8.6 แสนล้านบาท
  • ปี 2570 ขาดดุล 7.6 แสนล้านบาท
  • ปี 2571 ขาดดุล 7.2 แสนล้านบาท
  • ปี 2572 ขาดดุล 7.0 แสนล้านบาท

หนี้สาธารณะคงค้าง

  • ปี 2569 อยู่ที่ 13.46 ล้านล้านบาท คิดเป็น 67.30% ต่อ GDP
  • ปี 2570 อยู่ที่ 14.24 ล้านล้านบาท คิดเป็น 68.50% ต่อ GDP
  • ปี 2571 อยู่ที่ 14.98 ล้านล้านบาท คิดเป็น 69.20% ต่อ GDP
  • ปี 2572 อยู่ที่ 15.64 ล้านล้านบาท คิดเป็น 69.30% ต่อ GDP

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

  • ปี 2569 อยู่ที่ 20.08 ล้านล้านบาท
  • ปี 2570 อยู่ที่ 20.89 ล้านล้านบาท
  • ปี 2571 อยู่ที่ 21.74 ล้านล้านบาท
  • ปี 2572 อยู่ที่ 22.67 ล้านล้านบาท