ดอลลาร์แข็งค่า ฉุด "ราคาทองคำ" ร่วงจากจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์

04 ม.ค. 2568 | 02:28 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ม.ค. 2568 | 02:29 น.

ราคาทองคำดิ่งลงจากจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตลาดกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและราคาทองคำ

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 2,637.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1% สำหรับสัปดาห์นี้ ณ เวลาซื้อขายล่าสุด ขณะที่ สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ลดลง 0.5% ปิดที่ 2,654.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนการเพิ่มอัตราภาษี ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อตลาดโลหะมีค่าอย่างมีนัยสำคัญ

 

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในสัปดาห์นี้นับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ทำให้ราคาทองคำแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อในต่างประเทศ

มีการตั้งข้อสังเกตว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งนโยบายภาษีและการปกป้องสหรัฐ อาจจะกระตุ้นเงินเฟ้อ และมาตรการดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะจำกัดขาขึ้นของทองคำ 

 

 

หลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปี 2024 ธนาคารกลางสหรัฐคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงสองครั้งในปี 2025 เนื่องจากเงินเฟ้อที่ยังสูงอย่างต่อเนื่อง

ราคาทองคำขึ้นสูงในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในปัจจุบันได้รับประโยชน์จากความต้องการตามฤดูกาล

ด้านราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 29.619 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ระดับ 938.25 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 923 ดอลลาร์