KWM รายได้ครึ่งปีแรกทรุดสวนทางเศรษฐกิจการเกษตรขยายตัว โดยมีรายได้จากการขาย 330.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.67% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 26.76 ล้านบาท ลดลง47.18% ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลต้นทุนการผลิตสูง
มั่นใจอุตสาหกรรมการเกษตร ครึ่งปีหลังขยายตัวต่อ 2.4 – 3.4% หนุนความต้องการใช้อุปกรณ์เครื่องจักรฟื้นตัว พร้อมส่งซิกครึ่งปีหลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์จาก CBD 5 SKU พร้อมเดินหน้าลุยโรงงานสกัดสารพืชสมุนไพร คาดแล้วเสร็จไตรมาส4 นี้
“เอกพันธ์ วนโกสุม” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค”KWM” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย จำนวน 330.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.65 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 6.67 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 26.76 ล้านบาท ลดลง 23.90 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 47.18 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย จำนวน 155.08 ล้านบาท ลดลง 1.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 0.69 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 10.88 ล้านบาท ลดลง 14.74 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 57.53 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
สำหรับปัจจัยของผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของ2565 ชะลอตัวสวนทางเศรษฐกิจการเกษตร ในระดับมหาภาค ที่มีการขยายตัวถึง 5.7 % เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลต่อกำลังซื้อของเกษตรกร จากราคาต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรที่มีงบในการลงทุนที่จำกัด เลื่อนการเปลี่ยนอุปกรณ์การเกษตรที่เป็นผลิตภัณฑ์ของ KWM ออกไป จึงผลให้รายได้จากการขายของบริษัทฯ ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2565 ยังมีการขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.4 – 3.4 ต่อเนื่อง เป็นผลมาจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำตามธรรมชาติมากกว่าปีที่ผ่านมาและสภาพอากาศที่มีความเหมาะสมมากขึ้น ประกอบกับความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ในการส่งเสริมให้เกษตรกรมีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตและใช้ปัจจัยการผลิตอย่างเหมาะสมเพื่อลดต้นทุนการผลิต ยกระดับสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน และบริหารจัดการการผลิตและการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
นอกจากนี้ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยวและการขนส่ง มีการดำเนินการมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มขยายตัวได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามปัจจัยต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาปัจจัยการผลิตที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งราคาน้ำมัน ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช และอาหารสัตว์ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ทำให้หลายประเทศประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลต่อภาพรวมธุรกิจของ KWM ได้
ส่วนความคืบหน้าของการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ ขณะนี้บริษัทฯเตรียมดำเนินการออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชงในส่วนของ CBD (Cannabidiol) ในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างน้อย 5 ผลิตภัณฑ์ (5 SKU) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Medical (เมดิคอล) และกลุ่มเวชสำอาง (Cosmeceuticals) และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แรกภายในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย พืชกระท่อม ภายใต้บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2565 ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาสารสกัดที่ได้จากพืชกระท่อมหลากหลายรูปแบบ สำหรับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดใบกระท่อม เพื่อรองรับการเป็นพืชเศรษฐกิจของใบกระท่อมในอนาคต