‘เมกะเซลล์’ ปลุกแรงซื้อ บิ๊กค้าปลีกอัดฉีด ชิงทัวริสต์

หลังจากผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 พร้อมมาตรการผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น ผนวกปัจจัยบวกจากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้ประเทศไทยจะมีผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก กลายเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวได้ จึงเป็นหน้าที่ของภาคเอกชนในการเตรียมพร้อมรองรับ

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีมีความสำคัญมากขึ้น นอกเหนือจากการเป็นช่วงไฮซีซันของคนไทยและเป็นฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวของต่างชาติ ยังเป็นช่วงที่มีการจัดประชุม APEC 2022

ดังนั้นเพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะเกิดขึ้น เดอะมอลล์ กรุ๊ปจึงร่วมกับวันสยาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกว่า 100 พันธมิตรธุรกิจ จัดเมกะเซลล์ระดับชาติ “Bangkok Shopping Festival” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ช้อป ช่วย ได้” ที่จะเป็นอีเว้นท์หลักในการกระตุ้น การท่องเที่ยวดึงนักช้อปชาวไทยและต่างชาติ เพื่อปลุกกำลังซื้อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

โดยงานเมกะเซลล์นี้จะมีขึ้นทั้งที่เดอะมอลล์ และ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยไฮไลท์จะเป็นการนำแบรนด์สินค้าดังลดแรงครั้งยิ่งใหญ่ช่วงโค้งสุดท้ายของปีสูงสุด 80% ทุกชั้น ทุกแผนก ทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และ Online โดยการจัดแคมเปญนี้เดอะ มอลล์ใช้งบการตลาดราว 120 ล้านบาท และคาดว่าจะมีทราฟิกเพิ่มขึ้น 20-25% และตลอดระยะเวลา 1 เดือนนี้จะมียอดขายราว 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 กว่า 25%

“ขณะนี้เริ่มเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาคึกคักขึ้นใกล้เคียงกับช่วงปี 2562 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดีย และตะวันออกกลาง อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูไบ ฯลฯ ขณะเดียวกันจะเห็นว่าช่วงไตรมาส 4 ผู้ประกอบการแบรนด์ดัง ต่างเตรียมพร้อมออกสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ วินเทอร์ เพื่อเตรียมรับนักช้อป ซึ่งจะทำให้ทั้งกลุ่มสินค้าแฟชั่น และเครื่องสำอาง กลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น”

ด้านนางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า กลุ่มวันสยาม ภายใต้บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารสยามพารากอนสยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า ผลประกอบการของศูนย์การค้าในกลุ่มวันสยามใน 9 เดือนแรกของปี 2565 สูงกว่า 9 เดือนแรกของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนสถานการณ์โควิด ซึ่งในปีนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นสัดส่วนมากถึง 20-30% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่มีทิศทางบวก ขณะที่แคมเปญ Bangkok Shopping Festival จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นกำลังการจับจ่ายจากทั้งนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

“การจับจ่ายที่เกิดขึ้นจะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินไหลเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อีกทั้งปัจจัยสำคัญที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม APEC ในปีนี้ กลุ่มวันสยาม ได้จัดเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านสถานที่ กิจกรรมรวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย เพื่อต้อนรับผู้แทนที่จะเดินทางมาเข้าร่วมประชุมจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย”

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนาต้องการปักหมุดประเทศไทยให้เป็นแลนด์มาร์กงานเทศกาลโลก โดยในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นซีซั่นของช่วงเทศกาลและมีการจับจ่ายในธุรกิจรีเทลมากที่สุด ประกอบกับการเปิดประเทศ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา

โดยคาดว่าในปลายปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวกว่า 1.5 ล้านคน เห็นได้จากทราฟิกในศูนย์การค้าทั่วประเทศ และทราฟิกทัวริสต์กลับมาแล้ว โดยกรุงเทพฯยังคงเป็นอันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลกและคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนในปีนี้ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยวางไว้

ส่วนทราฟิกในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศตอนนี้กลับมาแล้วเกือบ 100% โดยทราฟิกหลักยังคงมาจากลูกค้ากลุ่มครอบครัวและคนทำงาน 1.3 ล้านคนต่อวัน ปีนี้จะเน้นเจาะกลุ่ม GEN Z ซึ่งเป็นกลุ่ม Top spending และกลุ่มลูกค้ากลางบนที่มีกำลังซื้อสูง ขณะที่ฝั่งผู้เช่าในศูนย์การค้าเริ่มทำยอดขายได้ตั้งแต่ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันภาพรวมของศูนย์การค้าได้กลับมา 90% และคาดว่าจะกลับมาเทียบเท่ากับปี 2562 ในเดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้เซ็นทรัลได้ทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาทจับมือกับ LINE FRIENDS เปิดตัวแคมเปญ “Embracing Happiness 2023” ในช่วงไตรมาส 4 เพื่อสร้าง Scalable Impact ในทุกห้างของเซ็นทรัลทั่วประเทศ โดยแต่ละแห่งอาจมีกิมมิคที่แตกต่างกันซึ่งจะช่วยผลักการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลัก เมืองรองและคาดว่าจะช่วยดันทราฟิกเพิ่มขึ้นมา 30% นอกจากนี้ยังจะนำไปโปรโมทในต่างประเทศผ่านสำนักข่าวที่เป็นพาร์ทเนอร์กันเพื่อดึงนักท่องเที่ยวหลักที่เราโฟกัสเช่น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น เข้ามาในช่วงเทศกาลนี้

“แม้จะมีความกังวลเรื่องของบาทอ่อน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และน้ำท่วมที่อาจมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ตอนนี้ถือว่าภาพรวมดีขึ้นหลังจากเปิดประเทศมีนักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาในประเทศมากขึ้นทำให้มีโมเมนตัมการจับจ่ายที่ดีขึ้นโรงแรมมีคนเข้าพักมากขึ้น ภาคการท่องเที่ยวยังมีการ spending จากกำลังซื้อภายในประเทศช่วย”

หน้า 15  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,828 วันที่ 20 - 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565