นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP กล่าวว่า รายได้ 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 20,833 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,597 ล้านบาท ขณะที่กำไรไตรมาส 3 หดตัวลง เนื่องจากราคาวัตถุดิบและพลังงานที่สูงขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทและเงินจัตอ่อนตัว ประกอบกับปริมาณการขายและการผลิตที่ลดลงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยต่อหน่วยสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม โอสถสภา ยังสามารถทำรายได้ไตรมาส 3 จากการขายอยู่ที่ 6,178 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 244 ล้านบาท ดังนั้นในไตรมาส 4 บริษัทฯ จึงเตรียมอัดแคมเปญการตลาดชิงโชคใหญ่ “ฝาเอ็มแจกใหญ่ ได้ทั้งแลกได้ทั้งลุ้น” ของผลิตภัณฑ์เอ็ม150 พร้อมกิจกรรมการตลาด เพื่อผลักดันยอดขายในช่วงสิ้นปี
ส่วนกลยุทธ์ที่จะนำมาขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง คือการลดต้นทุน ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาด ที่สำคัญคือการสร้างการเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศผลการเจรจากับพันธมิตร 1-2 รายในปีหน้า เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่โอสถสภา
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังของโอสถสภา ด้วยความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอที่มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังหลากหลายแบรนด์และครบทุกเซกเม้นต์ที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดยมีแบรนด์เอ็ม-150 เป็นผู้นำตลาด เช่นเดียวเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริงก์แบรนด์ที่ ‘ซีวิท’ เป็นผู้นำในตลาด โดยมีส่วนแบ่ง 38.9% สูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมวิตามินซี ขณะที่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเอ็มเกลือแร่ และคาลพิส แลคโตะมียอดขายที่โดดเด่น
ในด้านการดำเนินธุรกิจ โอสถสภายังได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2565 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และได้รับรางวัล Thailand Kaizen Award 2022 ระดับ Bronze ประเภท Genba Kaizen จากสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการผลิตอย่างต่อเนื่อง