นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถยอดขายรายไตรมาสทำสถิติสูงสุดของปี และเป็นครั้งแรกที่ชนะไตรมาส 2 ซึ่งปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเครื่องดื่ม โดยมีรายได้อยู่ที่ 1,664.2 ล้านบาท เติบโต 43.6% กำไรสุทธิอยู่ที่ 192.2 ล้านบาท เติบโต 49.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
และเป็นการเติบโตกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม โดยข้อมูลจาก Nielsen เผยถึงภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 23.07% มีมูลค่าตลาดชาพร้อมดื่มอยู่ที่ 10,380 ล้านบาท แข็งแกร่งกว่ากลุ่มเครื่องดื่มโดยรวม
การเติบโตอย่างน่าประทับใจของ อิชิตัน มาจากการเดินหน้าตามกลยุทธ์ 3N (New Product, New Market, New Business) โดยอิชิตันได้ขยายพอร์ตสินค้าใหม่ ไปยังมูลค่าตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ใหญ่ขึ้น โดยล่าสุดวางจำหน่ายแบรนด์น้องใหม่สินค้าไฮไลท์ เครื่องดื่มโคเรียนโซดา “TANSUNSU (ตันซันซู)” ออกมา เจาะกลุ่ม Gen Z ที่ชอบทดลองสิ่งใหม่ๆ และหลงใหลในวัฒนธรรม KPOP ได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ตั้งเป้ามุ่งสู่ยอดขาย 150 ล้านบาทในปีนี้
ในขณะที่พอร์ต "ชา" บริษัทมีแผนส่งสินค้าใหม่ “อิชิตัน คาเทชิน 0 แคลอรี” 2 รสชาติ ชาเขียวมะลิ และชาอู่หลง สูตรน้ำตาล 0% และ 0 แคลอรี ชาคุณภาพในราคา 20 บาท เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถดื่มได้บ่อยๆ เพื่อสนับสนุนเทรนด์การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี (Well-Being) ที่ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมให้ความสำคัญใส่ใจสุขภาพตัวเองในทุกๆ วัน
ด้านธุรกิจ ICHITAN OEM SERVICE มีแนวโน้มสดใส จากประสบการณ์ในการผลิตเครื่องดื่มมามากกว่า 10 ปี และทีม R&D ที่เชี่ยวชาญ ทำให้เริ่มมีการรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ 2 รายเข้ามาในไตรมาส 3-4 /2565 ได้แก่ เครื่องดื่ม Acer Predator Shot Vitamin Drink และ Thaitanium Power Energy Drink เครื่องดื่มเพิ่มพลังผสมวิตามินสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สนับสนุนการใช้อัตราการกำลังการผลิต (Utilization Rate) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 65% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 49 % เป็นสัญญาณแนวโน้มที่ดีในการช่วยต้นทุนต่อขวดลดลง
ขณะที่ตลาดส่งออกฟื้นตัวดีขึ้น และราคาต้นทุนลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แม้ในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันทางด้านเศรษฐกิจ แต่อิชิตันมุ่งเน้นบริหารจัดการภายในได้ดี ทำให้ในไตรมาส 3/2565 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.5% อัตรากำไรสุทธิ 11.5% ขณะเดียวกันส่วนแบ่งกำไรธุรกิจร่วมค้าในอินโดนีเซียอยู่ที่ 65.5 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้
และยังอยู่ในทิศทางเติบโตต่อเนื่อง มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ จากเป้าหมายรับรู้ส่วนแบ่งกำไรกลับมาที่อิชิตัน กรุ๊ป ขั้นต่ำที่ราว 75 ล้านบาทในปี 2565 โดยเริ่มมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศฟิลิปปินส์ผ่านร้านค้า Alfamart แล้วในเดือนสิงหาคม กว่า 1,300 สาขา และเตรียมรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่ Calvit นมเปรี้ยวโยเกิร์ต ในปลายปี