นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล,ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม เปิดเผยว่า เซ็นทรัลพัฒนา ได้รับรางวัล “Product / Service Excellence หรือ รางวัลความเป็นเลิศด้านสินค้า/การบริการ” ในงาน TMA Excellence Awards 2022 จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสถาบันศศินทร์จุฬาฯ
สะท้อนความสำเร็จในฐานะ Place Maker ผู้พัฒนาพื้นที่คุณภาพ ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการนำนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ไปพร้อมกับการใส่ใจดูแล ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมให้ได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเซ็นทรัลพัฒนา
“นับเป็นปีที่ 4 ที่เซ็นทรัลพัฒนาได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากงาน TMA Excellence Awards โดยครั้งนี้บริษัทได้ “รางวัลความเป็นเลิศด้านสินค้าและการบริการ” ถือเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างมาก และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ TMA ที่เล็งเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมงาน
เซ็นทรัลพัฒนาที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับสังคมและประเทศไทย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน และรางวัลนี้จะเป็นกำลังใจให้เราเดินหน้าสร้างสรรค์พัฒนาสิ่งใหม่ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรและประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all”
“ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับทุกคน ด้วยบทบาทการเป็น Place Maker ‘นักพัฒนา’ พื้นที่แห่งอนาคตที่บุกเบิก Retail Landscape พัฒนาพื้นที่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ หรือ Center of Life ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ไปพร้อมกับการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม สร้างการเปลี่ยนแปลงและความเจริญให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง”
ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา บริหารจัดการศูนย์การค้ารวมทั้งหมด 39 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่ง (ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์การค้าเอสพลานาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกะ บางนา (ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) และคอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร
นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 3 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 25 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN (ทาวน์โฮม) ESCENT AVENUE (โฮมออฟฟิศ)
นินญา กัลปพฤกษ์ (บ้านแฝด) โครงการนิยาม บรมราชชนนี (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการแนวราบหลากหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ “นิรติ” ที่เชียงราย บางนา และดอนเมือง นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” big project ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2566-2567 เป็นต้นไป
ขณะที่ทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2565-2569) เซ็นทรัลพัฒนาจะหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งที่ประกาศไปแล้ว และยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
นอกจากนี้ยังศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน