“คิดซ์ แอนด์ คิทซ์”ลุยหนักตลาดการ์ดเกม กวาดแชร์คนชอบ “อนิเมะ” แข่งอี-สปอร์ต

“ตลาดเทรดดิ้งการ์ด”หรือการ์ดเกม กลับมาเป็นกระแสทั่วโลก โดย“คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” ผู้นำวงการการ์ดเกมไทยฟันธง มั่นใจตลาดการ์ดเกมไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังคนรุ่นใหม่ยุค Gen Y เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน และมีกำลังซื้อมากขึ้น

นายวีระศักดิ์ กิจเลิศไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จำกัด (Kidz and Kitz) ผู้นำวงการการ์ดเกม รวมถึงเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายการ์ดเกม และของเล่นแบรนด์ดังมากมาย อาทิ BANDAI, KONAMI, Bushiroad, EPOCH, Topps ฯลฯ ตลอดจนได้ลิขสิทธิ์ผลิต และจัดจำหน่าย การ์ดไฟท์แวนการ์ด ฟิวเจอร์การ์ดบัดดี้ไฟท์ และแบทเทิลสปิริตส์ ในเวอร์ชั่นภาษาไทย เปิดเผยว่า ตลาดเทรดดิ้งการ์ดเกม (Trading Card Game) ทั่วโลกกลับมาเติบโต และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เล่น และนักสะสมหน้าใหม่

ทั้งนี้เป็นผลจากเด็ก Generation Y (กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2523 – 2537 ปัจจุบันมีอายุในช่วง 19 - 39 ปี) ที่เคยติดตามอนิเมะได้เติบโตขึ้น และเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีกำลังซื้อสูง สนใจเรื่องการลงทุน และสามารถตัดสินใจซื้อได้ด้วยตนเอง ประกอบกับเทรนด์การสะสมการ์ดในฐานะของมีค่า ที่มีทั้งคุณค่าทางจิตใจ และอาจมีราคาสูงขึ้นในอนาคต เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดการ์ดเกมเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา

“บริษัทจะเดินหน้าอัดกิจกรรมการตลาดทั้ง Event, Influencer Marketing และ Mobile Application  ชูกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าเดิม และสร้างการรับรู้ให้ผู้เล่นการ์ดใหม่ ๆ ได้รับความสนุก และตัดสินใจเล่นการ์ดภาษาญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น”

สำหรับ คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ ถือเป็นผู้นำตลาด และเป็นผู้บุกเบิกยุคสมัยใหม่ของวงการการ์ดเกมในประเทศไทย โดยเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ได้ซื้อสิทธิ์การ์ดเกมจากต่างประเทศมาแปลเป็นภาษาไทย และผลิตในประเทศไทย พร้อมจำหน่ายในราคาที่เด็ก ๆ และคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีการกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงโมเดิร์นเทรด ส่งผลให้วัฒนธรรมการเล่นการ์ดเกม ขยายตัวสู่ตลาด Mass ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต่างจากในอดีตที่ตลาดการ์ดเกมจะกระจุกตัวเฉพาะในกลุ่มเล็ก ๆ

ปัจจุบันคิดซ์ แอนด์ คิทซ์นอกจากเป็นผู้นำตลาดการ์ดเกมในไทยแล้ว ทั้งยังเป็นตัวแทนจำหน่าย นำเข้าการ์ดเกมดัง ๆ มากมาย อาทิ Yu-Gi-Oh! (ยูกิโอ), การ์ดไฟท์แวนการ์ด, ไวส์ชวาส, แบทเทิล สปิริตส์, วันพีซการ์ดเกม และล่าสุดคือ “ยูเนี่ยนอารีน่า - UNION ARENA"

ทั้งนี้แม้จะมี E-sports, Mobile Game เป็นทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่กระแสการ์ดเกมในปัจจุบันดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากผู้ปกครองเห็นถึงประโยชน์ และมีจุดเด่นในเรื่องของการมีปฏิสัมพันธ์ เพราะการแข่งขันการ์ดเกมทำให้ผู้เล่นมีโอกาสมาพบหน้ากัน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และทำกิจกรรมร่วมกัน จนเกิดเป็นมิตรภาพ และได้สังคมผู้ที่ชอบการเล่นการ์ดเกมด้วยกัน

นอกจากนี้ นักสะสมการ์ดหน้าใหม่จำนวนมาก ยังเล็งเห็นว่า การ์ดเกมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งทางด้านจิตใจ และมูลค่าที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต ดังนั้นการเติบโตของตลาดการ์ดเกมจึงเป็นการเติบโตอย่างมั่นคง และต่อเนื่อง

จากปัจจัยบวก และทิศทางแนวโน้มที่ดีดังกล่าว บริษัทฯ ได้เตรียมเดินหน้าขยายฐานตลาดในประเทศ ผ่านกิจกรรมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์การแข่งการ์ดเกมภาษาญี่ปุ่นในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับร้านค้า ระดับภูมิภาค ไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งจะมีตลอดทั้งปี

รวมถึงการสร้างการรับรู้สู่กลุ่มใหม่ ๆ ผ่าน Influencer Marketing บนโซเชียลมีเดีย และยังลดอุปสรรคในการทำความเข้าใจการ์ดที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ด้วยการเปิดตัว Mobile Application “KK CARD FIGHT” แอปพลิเคชันที่รวมทุกสิ่งที่นักเล่นการ์ดต้องการ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันช่วยแปลความหมายของการ์ดแต่ละใบเป็นภาษาไทย ระบบสมาชิกเก็บคะแนนสะสม อำนวยความสะดวกในการจัดเด็คการ์ด ระบบทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน ตอบโจทย์ทั้ง End user และร้านค้า  โดยสามารถตอบสนองความต้องการทั้ง B2C และ B2B ในเวลาเดียวกัน 

“ล่าสุด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด และเพื่อขยายฐานลูกค้า คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบอนิเมะ จึงเตรียมเปิดตัวการ์ดเกมใหม่ “ยูเนี่ยนอารีน่า - UNION ARENA”  ในประเทศไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจการ์ดเกมของบริษัทฯ โดยจะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคม 2566 นี้ ทั้งนี้ ยูเนี่ยนอารีน่า เป็นการ์ดเกมที่รวบรวมเหล่าสุดยอดคาแรคเตอร์ยอดนิยม จากทั้งมังงะ และอนิเมะไว้มากที่สุด”นายวีระศักดิ์ กล่าว