รพ.ธนบุรีบำรุงเมืองเตรียม IPO ปีหน้ารับเวลเนสบูม

ธุรกิจสุขภาพเติบโตต่อเนื่อง โรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง เปิดเกมใหม่เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์หลังศูนย์เเพทย์เฉพาะทาง Wellness เเละ Senior Care ทำผลงานดี ล่าสุดแต่งตั้งบล. เมย์เเบงค์ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาการเงินเเละประกันการจัดจำหน่ายหุ้น เรียกความมั่นใจนักลงทุน เตรียมจดทะเบียนในตลท. คาดเริ่ม IPO ช่วงต้นปี 2567

ดร.ธิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา รพ. ธนบุรีบำรุงเมือง มีผลกำไรต่อเนื่องโดยช่วงหลังโควิดมีรายได้เพิ่มจากการลงทุนในเทคโนโลยีเเละบุคลากรเเพทย์ในศูนย์เเพทย์เฉพาะทาง เช่นศูนย์โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง คลีนิคผู้มีบุตรยาก ทันตกรรมดิจิตอล Wellness เเละศูนย์ความงาม รองรับความต้องการของคนไข้

 

นอกจากนั้น เครือ รพ.ธนบุรียังเป็นผู้นำการใช้เทคโนโลยี่เพื่อการเเพทย์ทางไกล Telehealth เเละพร้อมขยายธุรกิจให้บริการด้าน Wellness เเละ Senior Care กลุ่มลูกค้าสูงวัยชาวไทย เเละจากยุโรป โดยมีหมู่บ้านผู้สูงวัยในเครือ รพ.ธนบุรี ที่ จิณณ์ เวลล์ บีอิ้ง รังสิต เเละ ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ที่ประชาอุทิศ เเละกำลังขยายโครงการ Wellness-Senior Care ที่พัทยา เชียงใหม่ เเละหัวหิน

โดยรายได้ในอนาคตจะของ รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง จะเติบโตจาก ศูนย์การเเพทย์เป็นเลิศเฉพาะทาง เเละธุรกิจ Wellness-Senior Care สนองความต้องการของสังคมสูงวัยทั้งในประเทศไทย เเละต่างประเทศ

“โรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง position ตัวเองเป็นโรงพยาบาลระดับพรีเมี่ยม ดูแลทั้งคนที่สุขภาพดีและคนป่วย ปัจจุบันการดูแลสุขภาพที่มาแรงเป็นเรื่องของ wellness ซึ่งเรามีการดำเนินการธุรกิจด้านนี้มานานพอสมควรผ่านบริษัทลูกที่ทำในเรื่องเทเลเฮลท์แคร์ เพื่อดูแลคนที่ยังไม่เจ็บป่วยหรือคนที่ป่วยแล้วสามารถจะพบแพทย์ได้จากที่บ้าน หรือแม้กระทั่งสอบถามปัญหาสุขภาพจนไปถึงการบำบัดบางอาการโดยมีนักกายภาพให้คำปรึกษาเบื้องต้นและส่งบุคลากรHealthcare service ไปให้บริการถึงที่บ้านได้ 

 

หรือแม้กระทั่งหากคนไข้ต้องการพบแพทย์แต่ไม่สะดวก เรามีการอำนวยความสะดวกในการตรวจสุขภาพเช่นไปเจาะเลือดที่บ้านนำมาวินิจฉัยในแลปของเราและแจ้งผลผ่านเทคโนโลยีต่างๆ นอกจากนี้เรายังมีบริษัทลูกที่ทำเรื่องของโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งหมดที่เกี่ยวกับการแพทย์”

 

นอกจากนี้ปัจจุบันยังเป็นยุคของ Medical tourism ซึ่งเครือ รพ.ธนบุรีเปิดรับผู้ป่วยต่างชาติมาโดยตลอดเน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มหลัก กัมพูชา เมียนมาร์และตะวันออกกลางทั้งUAE คูเวต กาต้าร์ ซึ่งปัจจุบันตลาดนี้กำลังเติบโตอย่างมากและมีความต้องการบริการทางการแพทย์ที่สูง

 

“ประเทศไทยถือว่าเป็น Medical Hub แห่งหนึ่งของโลก แพทย์ไทยมีความเชี่ยวชาญและเป็นที่พูดถึงทั่วโลกบวกกับค่าบริการของเราไม่ได้แพงถ้าเทียบกับหลายๆประเทศทั่วโลก ทำให้เราสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาใช้บริการของเราได้มากขึ้น ดังนั้นนักลงทุนต่างๆน่าจะมองเห็นว่า healthcare เป็นเรื่องที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้และประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมาก ซึ่งทางโรงพยาบาลเรามองว่าเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสมหลังจากโควิดคลี่คลาย ทั่วโลกเปิดประเทศนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาเราจึงมองถึงการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งคาดว่าจะเริ่มIPOได้ในช่วงปีหน้า 

 

ตอนนี้เราอยู่ในขั้นตอนคุยกับที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ โดยเลือกบมจ. บล. เมย์เเบงค์ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาการเงินเเละประกันการจัดจำหน่ายหุ้น เพราะเมย์เเบงค์ เป็น regional financial institution โดยเฉพาะใน ASEAN ที่เป็นตลาดที่ THG, THB กำลังขยายเข้าไปบุกเบิก จึงเป็น พันธมิตรการเงินที่เหมาะสมในก้าวอนาคต ASEAN expansion ของ THGและ THB”

 

นายธีร์ จารุศร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ  บมจ. บล. เมย์เเบงค์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ธุรกิจสุขภาพและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับHealthcare มีทิศทางการเติบโตสูง ซึ่ง รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง มีการเตรียมแผนธุรกิจรองรับธุรกิจHealthcare ที่คาดว่าว่าในอนาคต Healthcare sector จะมีการเติบโตอย่างสูงกว่าปัจจุบัน 

 

ขณะเดียวกันในมุมมองของชาวต่างชาติมองว่าไทยเป็น popular destination ทำให้แนวโน้มของชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาค่อนข้างเยอะ รวมทั้งชาวต่างชาติสูงอายุจากหลายประเทศที่ต้องการมาใช้ชีวิตหลังเกษียนในประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเป็น New industry ที่มีแนวโน้มเติบโต ซึ่งรพ.ธนบุรีบำรุงเมืองเองมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของตัวเองค่อนข้างเยอะเพื่อให้เหมาะสมตลาดใหม่ที่เกิดขึ้น 

 

“ในส่วนของการลงทุนขึ้นอยู่กับต้นทุนและราคาที่เหมาะสมซึ่ง maybank จะทำราคาให้สมเหตุสมผลที่สุดเพื่อประโยชน์ของทั้งนักลงทุนและรพ.ธนบุรีบำรุงเมืองสามารถทำกำไรได้ดีที่สุด”