JSP เปิดขายแฟรนไชส์ตู้ขายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง

09 เม.ย. 2566 | 10:47 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2566 | 11:08 น.

JSP ผนึก “เมดิส คอร์ปอเรชั่น” เปิดโมเดลแฟรนไชส์ตู้ขายยาเจ้าแรก ย้ำภาพเบอร์หนึ่งแพลตฟอร์มตู้จำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมงพร้อมขยายพื้นที่ติดตั้งตู้ Vending Phamacy กรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่ม

บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JSP เปิดช่องประชาชนเข้าถึงยาสามาัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง ผนึกบริษัท เมดิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MEDIS แพลตฟอร์มจำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง ผ่านระบบตู้จ่ายยาอัตโนมัติ พร้อมเปิดตัวโมเดลแฟรนไชส์ตู้ขายยาและขยายพื้นที่ติดตั้งตู้ Vending Phamacy ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า JSP ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์  MEDIS เพื่อนำเอายาสามัญประจำบ้านและเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้เข้าถึงยาสามัญประจำบ้านได้ง่ายขึ้น

โดยเตรียมเปิดตัวขายแฟรนไชส์ตู้ขายยาอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เมษายนนี้ ในงานประชุมใหญ่ของสมาคมร้านขายยา คาดว่าจะได้รับความสนใจจากร้านขายยาและผู้ที่อยู่ในธุรกิจร้านขายยาเข้ามาร่วมงานดังกล่าวมากกว่า 1,000 ราย ซึ่ง MEDIS จะเปิดขายแฟรนไชส์ตู้ยากลุ่มแรกเจาะกลุ่มร้านขายยาและเปิดโอกาสให้ร้านขายยาซื้อตู้ยาไปวางได้ง่ายเพราะลงทุนน้อย ไม่ต้องหาเภสัชกรมาประจำร้าน 

 

ในขณะที่ JSP จะมีช่องทางขายยาแบรนด์สุภาพโอสถที่กว้างขึ้นและทำให้คนรู้จักแบรนด์ของบริษัทมากขึ้น รวมทั้ง JSP จะช่วยซัพพอร์ตลูกค้า OEM ให้มีช่องทางในการจำหน่ายผ่านตู้ยาเมดิสอีกด้วย”

 

ด้านนายสรพล พันธุมะผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MEDIS ผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มจำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง ผ่านระบบตู้จ่ายยาอัตโนมัติ ในการติดตั้งตู้ขายยา เปิดเผยว่า MEDIS นับว่าเป็นเจ้าแรกในตลาดที่ลงตู้ยาให้บริการจำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง  ผ่านระบบตู้จ่ายยาอัตโนมัติเพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงกลุ่มยาสามัญประจำบ้าน อุปกรณ์การแพทย์ อาหารเสริม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และสินค้าอื่นๆ ที่สามารถซื้อได้ด้วยตนเองผ่านตู้จ่ายยาอัตโนมัติ เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาอม ยาดม ยาหม่อง สำลี ยาทาแผล น้ำวิตามิน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมรองรับการให้คำปรึกษาโดยเภสัชกรผ่านระบบออนไลน์ในอนาคต

ด้านนายสรพล พันธุมะผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MEDIS

“การที่ JSP เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับ MEDIS ในครั้งนี้เป็นการดิสรัปชันตลาด และถือเป็นการขยายการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับบริษัทในอนาคต เนื่องจากธุรกิจตู้ยาเป็นธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานของปัจจัย 4 การลงทุนในธุรกิจนี้จึงเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าและมีความยั่งยืน MEDIS ซึ่งเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ทำการจำหน่ายยาสามัญประจำบ้านผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และมีความพร้อมรองรับระบบที่ทันสมัย ที่สามารถส่งมอบยาสามัญประจำบ้านให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างทันท่วงที และพร้อมให้บริการดูแลสุขภาพเบื้องต้นตลอด 24 ชั่วโมง” 

 

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายในการขยายตู้จ่ายยาอัตโนมัติประมาณ 100 ตู้ และในปี 2567 ตั้งเป้าไว้ที่ 500 ตู้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงยาสามัญประจำบ้านและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเบื้องต้นได้อย่างทั่วถึง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมรองรับการให้คำปรึกษาโดยเภสัชกรและบุคลากรทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมีแผนจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต ผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ พร้อมการพัฒนาระบบทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

 

“เราได้ผนวกนวัตกรรมต่างๆที่ทันสมัยลงใน MEDIS Platform และพร้อมจะทำการพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงไปของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะนำตู้จ่ายยาอัตโนมัติไปติดตั้งในที่พักอาศัยที่เป็นคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งได้มีการเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริษัทบริหารจัดการชุมชนชั้นนำและทำการติดตั้งตู้ในพื้นที่หลายๆ แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยในปีที่ผ่านมา อาทิเช่น แอลพีเอ็น เอพี แสนสิริ อนันดา เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ และในปี 2566 บริษัทวางแผนขยายพื้นที่ติดตั้งตู้จ่ายยาอัตโนมัติในกรุงเทพฯและปริมณฑล แบบโตก้าวกระโดด และรุกตลาดต่างจังหวัดในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น จ.เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต เป็นต้น 

 

และใน5 ปีข้างหน้า จะขยายตู้ยาไปทั่วประเทศไทย ใน 70,000 หมู่บ้าน 7,000 ตำบล เพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาสามัญประจำบ้านให้ได้มากที่สุดและทั่วถึงที่สุด”