นายสมพล ปรีชาวุฒินันท์ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท รินไน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปี ของการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ตลาดเครื่องใช้ในบ้านของไทยมีการเติบโตสูง จาก Work From Home การประกอบอาหารในบ้าน และการระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น รวมถึงการดูแล ซ่อมแซม เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน
โดยเฉพาะเตาแก๊สและเครื่องทำน้ำอุ่นเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของรินไน (Rinnai) ด้วยเช่นกัน แต่เมื่อภาวะการแพร่ระบาดลดลง การใช้ชีวิตกลับมาเหมือนเดิม ประกอบกับมีการเปิดประเทศอย่างเต็มตัว ทำให้ตลาดเครื่องใช้ในครัวเรือนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รินไน จึงได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ (Product Line Up) เพื่อตอบสนองแก่กลุ่มบ้านและเชิงพาณิชย์ให้มากขึ้น
ล่าสุดรินไนมีการเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ผลิตภัณฑ์เครื่องดูดควันบ้านดีไซน์ใหม่ (Slant Hood) รุ่น RH-KT2959-GBV และ เครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้าแบบถังเก็บ (Storage Water Heater) สำหรับบ้านและเชิงพาณิชย์ เพื่อรุกตลาดไทยรอบใหม่ ซึ่งเครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้าแบบถังเก็บ เป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ได้รับอานิสงค์จากการท่องเที่ยวที่เติบโต ร้านสะดวกซักที่เป็นธุรกิจดาวรุ่ง ที่ต้องการใช้น้ำร้อนในปริมาณมากและไม่สะดวกในการติดตั้งแก๊ส
อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมา รินไนมียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ประมาณ 940 ล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 4-5% จากการดำเนินกลยุทธ์การตลาดในเชิงรุกมากขึ้น พร้อมการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนกว่า 300 ร้านค้าทั่วประเทศ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวเพิ่มขึ้นอีกหลายยูนิตในปีนี้ คาดว่าในปีนี้บริษัทจะมียอดขายรวม 1,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6%
ส่วนปัจจัยลบที่ต้องระมัดระวังในปีนี้ คือ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตและสถานการณ์พลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กำลังซื้อลดลงจากเงินเฟ้อ โดยรินไนได้เตรียมแผนในการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมุ่งพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรที่เป็นระบบ Automation แขนจักรกล หุ่นยนต์ รวมถึงลดค่าพลังงานด้วยการติดตั้ง Solar Roof Top ในการใช้พลังงานสะอาดในการผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย
สำหรับแบรนด์ “รินไน” เป็นแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มเครื่องใช้ในครัวจากประเทศญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจมากว่า 103 ปี โดยสินค้ากลุ่มหลัก คือ เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ รวมถึงเครื่องทำน้ำร้อนระบบแก๊สและไฟฟ้า ฯลฯ ปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่กว่า 80 ประเทศทั่วโลก ครองอันดับ 1 กลุ่มเครื่องใช้ในครัวประเภทใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงในประเทศใหญ่อย่างอินโดนีเซียและเกาหลี นอกจากนั้นยังสามารถครองอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อนในตลาดอเมริกาและออสเตรเลียด้วย
ขณะที่ตลาดในประเทศไทย รินไน (ประเทศไทย) ก่อตั้งขึ้นมากว่า 33 ปี เพื่อการทำตลาดและเป็นฐานการผลิตไปยังประเทศต่างๆ โดยโรงงานผลิตอยู่ที่ บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยสินค้ากลุ่มหลักที่ทำตลาดในไทยมี 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ 1. กลุ่มเตาแก๊สตั้งโต๊ะและหม้อหุงข้าวชนิดแก๊ส จำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ
2. กลุ่ม Built-In Product และเครื่องดูดควันหลากหลายฟังก์ชั่น ตามลักษณะการใช้งานและดีไซน์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ 3. กลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อนแก๊สและไฟฟ้า สำหรับบ้านและเชิงพาณิชย์ ซึ่งในส่วนเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องทำน้ำร้อน ไฟฟ้า นอกจากผลิตภายใต้แบรนด์ Rinnai แล้วยัง OEM ด้วย โดยมีกำลังการผลิตมากกว่า 200,000 เครื่องต่อปี
4. กลุ่มเครื่องครัวเชิงพาณิชย์ ซึ่งใช้ในครัวอุตสาหกรรมม ครัวโรงแรมหรือภัตตาคาร เช่น หม้อทอดแบบใช้แก๊สและไฟฟ้า หม้อหุงข้าวเชิงพาณิชย์ เตาย่าง เตา Salamander รวมถึงหัวเตาอินฟราเรด ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย