นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คาดว่าตลาดโดยรวมของสินค้านักเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า เครื่องเขียนและอุปกรณ์การเรียน จะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับนักเรียนในการไปโรงเรียน โดยราคาสินค้านักเรียนในปีนี้ยังไม่มีการปรับราคาaขึ้น ยังคงเป็นราคาเดิม
ขณะที่สถานการณ์การจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปกรณ์การเรียนนั้นเริ่มกลับมาคึกคักตั้งแต่ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ผู้ผลิตสินค้ายังให้ความร่วมมือในการทำโปรโมชั่น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครองด้วย ดังนั้นในปีนี้จึงเห็นโปรโมชั่นมากมาย อาทิ สินค้าซื้อ 1 แถม 1 / สินค้า one price ราคาเดียว เป็นต้น
“ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้ากลุ่มนักเรียนในช่วงเปิดเทอมเป็นปกติแล้ว เนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็นที่นักเรียนต้องใช้สำหรับช่วงเปิดเทอม เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาเรียนในภาคปกติ หลังจากที่มีการเรียน Online ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กำลังซื้อของกลุ่มผู้ปกครองมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปีนี้เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มซัพพลายเออร์แบรนด์ชั้นนำ อาทิ นันยาง ซาบีน่า ฯลฯ ที่เข้ามามีส่วนร่วมจัดโปรโมชั่นและรายการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้เกิดยอดซื้อในกลุ่มสินค้าจำเป็นให้กับเด็กนักเรียน จึงคาดว่าสถานการณ์การจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปกรณ์การเรียนจะยิ่งคึกคักเพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้เดอะมอลล์ จัดแคมเปญ “KIDS’ PLANET BACK TO SCHOOL” ขึ้น เพื่อให้บริการกับผู้ปกครองที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าให้กับบุตรหลาน เพื่อเตรียมพร้อมเปิดเทอมนี้ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้านักเรียน ถุงเท้านักเรียน ,ชุดนักเรียน, กระเป๋านักเรียน, ชั้นในเด็ก รวมถึงอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ จากแบรนด์ดัง
ได้แก่ ADDA, NANYANG , CATCHA, BREAKER, POPTEEN, SKECHERS KIDS, STEPHEN JOSEPH, CARSON KIDS, SABINA KIDS, LITTLE WACOAL, ABSORBA, ห่านคู่ MODERN JUNIOR เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสินค้าราคาพิเศษ อาทิ รองเท้านักเรียนเด็กหญิง BARBIE HELLO KITTY 499 บาท จากปกติ 985 บาท, รองเท้าผ้าใบสีขาว ADDA 295 บาท จากปกติ 350 บาท, แว่นตาว่ายน้ำ ลายการ์ตูน DISNEY สำหรับเด็ก449 บาท จากปกติ 900 บาท ฯลฯ
ส่วนไฮไลท์จะเป็นโปรโมชั่นพิเศษ ได้แก่ สินค้าลดสูงสุด 50 %, โปรซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 3 แถม 3, สินค้า ONE PRICE เริ่มต้นตั้งแต่ 99 บาท และรับส่วนลด 20% เมื่อซื้อสินค้า 2 ชิ้นขึ้นไป, แลกซื้อสินค้าราคาสุดคุ้ม เมื่อมียอดซื้อสินค้าครบ 1,500 บาทจากแผนก บีเทรนด์ รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษ เป็นต้น
นางสาววรลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้คาดว่าจะมียอดการซื้อสินค้าเปิดเทอมต่อบิลเฉลี่ย 1,500-2,000 บาท โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในช่วงเปิดเทอม 3 อันดับแรกในแผนก Kids’Planet ของเดอะมอลล์กรุ๊ป ได้แก่ 1. รองเท้านักเรียน และถุงเท้า 2. ชุดชั้นใน 3. กระเป๋าและกระติกน้ำ
ด้านนางสาววรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า โลตัส จัดแคมเปญ “เริ่มต้นเทอมใหม่ ลดใหญ่ สบายกระเป๋า” คัดสรรสินค้าสำหรับนักเรียนครบครัน ทั้งชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์การเรียน และสินค้าอุปโภคบริโภค พร้อมช่วยผู้ปกครองประหยัดค่าใช้จ่าย
จัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม 3 ต่อ และโปรแกรมผ่อน 0% นาน 3 เดือน ถือเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้ผ่อนได้ทุกชิ้นทั้งโลตัส เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย โดยสามารถเลือกช้อปปิ้งได้ทั้งที่โลตัสทุกสาขา หรือจะเป็นช่องทางออนไลน์ Lotus’s SMART App ตั้งแต่วันนี้-17 พ.ค. นี้
“โลตัสทำการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มผู้ปกครอง ซึ่งพบว่า สินค้าที่ผู้ปกครองวางแผนจะซื้อให้บุตรหลาน 5 อันดับแรก คือ รองเท้านักเรียน, ชุดนักเรียน, ถุงเท้านักเรียน, อุปกรณ์เครื่องเขียนและกระเป๋านักเรียน โลตัสจึงนำเสนอสินค้าที่หลากหลายขนาด หลายแบบให้เลือกสรร พร้อมโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋าราคาถูกสุดเริ่มต้น 69 บาท รับโลตัสคอยน์เพิ่มสูงสุด 200 คอยน์ เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดแทนเงินสด โปรแกรมผ่อน 0% นาน 3 เดือนเมื่อชำระผ่านทรูมันนี่ เป็นต้น”
ขณะที่นายจักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า จากการโรงเรียนสามารถกลับมาเปิดเรียนได้ตามปกติ ประกอบกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว รวมทั้งเม็ดเงินอัดฉีดจากภาครัฐทำให้ตลาดรองเท้านักเรียนปี 2566 มีแนวโน้มดีกว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมาโดยคาดว่าจะมีมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท หรือเติบโต 3-5%
โดยพบว่าผู้ปกครองเริ่มจับจ่ายซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียนและรองเท้านักเรียนตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์ ดังนั้นคาดว่าในช่วงเปิดเทอมนี้จะสามารถสร้างยอดขายรองเท้านักเรียนได้ถึง 80% และมีการแข่งขันดุเดือดในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งรองเท้าผ้าใบแบบผูกเชือกที่กินสัดส่วน 60% รองเท้า PVC สำหรับนักเรียนหญิงที่มีสัดส่วน 35% โดยมีผู้เล่นมากถึง 10-15 ราย
สำหรับนันยางปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดรองเท้านักเรียนประมาณ 43-44% ดังนั้นในปีนี้บริษัทจะเน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มรองเท้าไซซ์เล็กสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาโดยตั้งเป้าการเติบโต 8-10% จากยอดขาย 1,300 ล้านบาทในปี 2565
อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่มีแผนขึ้นราคาสินค้าแม้ต้นทุนจะพุ่งสูงขึ้นก็ตามโดยเฉพาะต้นทุนค่าแรงงาน แต่จะเน้นการบริหารจัดการต้นทุนและใช้เครื่องจักรเข้ามาทดแทนเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพโดยปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 10 ล้านคู่ต่อปี และทำให้ยังสามารถคงราคาของสินค้าต่าง ๆ เท่าเดิมทั้งนันยางพื้นเขียว 205s รุ่นคลาสสิคราคาเริ่มต้น 320 บาท นันยาง Have Fun รองเท้าเด็กอายุ 4-10 ขวบ ราคาเริ่มต้น 299 บาท รุ่นซูเปอร์สตาร์ 199 บาท และนันยาง Zafari สำหรับเด็กโตราคา 299 บาท
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทชั้นนำที่จัดแคมเปญต้อนรับเปิดเทอม ไม่ว่าจะเป็น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี จัดแคมเปญต้อนรับเปิดเทอมเช่นกัน โดย “บิ๊กซี ต้อนรับเปิดเทอม Back to School” นำสินค้านักเรียน ได้แก่ ชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า เครื่องเขียน กระเป๋านักเรียน กล่องข้าว กระติกน้ำ โต๊ะหนังสือ และสินค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนอื่นๆ มาจำหน่ายในราคาพิเศษ รวมทั้ง “มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.” กับแคมเปญ “ช้อปสนั่น Fun สุด ต้อนรับเทศกาลเปิดเทอม” ยกทัพสินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์การเรียน ลดสูงสุด 40% เป็นต้น
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,886 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2566