การใช้จ่ายเม็ดเงินในช่วงเทศกาลกินเจถูกจับตามองอีกครั้งว่าจะเป็นโอกาสของธุรกิจ เมื่อมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้พบว่า บรรยากาศการจับจ่ายในสอยค่อนข้างคึกคักจากเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว ประชาชนซื้อของเพิ่ม 37.7% จากปีก่อนที่ 11.2% ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายต่อคนเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 4,587บาท สูงสุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ปี 2551 ส่วนเม็ดเงินสะพัดคาดว่าจะสูงถึง 44,558 ล้านบาท ขยายตัว 5.5% สูงสุดในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ปี 2557
อย่างไรก็ดี คนส่วนใหญ่มองว่า วัตถุดิบและราคาอาหารเจแพงขึ้น 57.1% มีเพียง 0.7% ที่คิดว่าราคาลดลง และ 42.2% ที่คิดว่าเท่าเดิม สอดคล้องกับการสำรวจความเห็นจาก ผู้ประกอบการร้านค้า 650 ตัวอย่าง คิดว่าราคาสินค้าในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้แพงขึ้นกว่าปีก่อน 72.% มีเพียง 1.7% ที่คิดว่าถูกลง
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าเทศกาลกินเจปีนี้ราคาอาหารเจน่าจะยังคงปรับสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตอาหารเจหลายรายการมีแนวโน้มจะขยับขึ้นจากช่วงเทศกาลกินเจปีก่อน อาทิ ผักต่างๆ เช่น คะน้า ฟักทอง เต้าหู้ และข้าว จากสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนักและนํ้าท่วมในบางพื้นที่ ซึ่งกระทบกับปริมาณผลผลิต นอกจากนี้ กลุ่มโปรตีนเกษตรก็น่าจะปรับขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มในช่วงกินเจ ขณะที่จำนวนผู้กินเจคาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากความนิยมอาหารเพื่อสุขภาพและการกลับมาใช้ชีวิตปกติหลังโควิดคลี่คลาย
โดยผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า คนกรุงเทพฯ ที่วางแผนจะกินเจ พยายามปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย เพื่อควบคุมงบประมาณการใช้จ่ายตลอดเทศกาล คาดว่า เม็ดเงินค่าใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลกินเจปีนี้อยู่ที่ 3,100 ล้านบาท ขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากระดับราคาอาหารเจที่อาจปรับขึ้นราว 2.5% ขณะที่ปริมาณการบริโภคอาหารเจโดยรวมน่าจะเติบโต 1.0%
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนรักสุขภาพให้ความสำคัญกับเทศกาลกินเจมากขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งอาหารเจ มีรสชาติความอร่อยและมีเมนูอาหารเจที่หลากหลายทำให้เพิ่มทางเลือกให้กับคนกินเจมากขึ้น อาหารเจจึงไม่จำเจ มีการคิดค้นพัฒนาวัตถุดิบต่างๆ ทดแทนเนื้อสัตว์ที่มีสารอาหารครบครัน มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้คาดว่าเทศกาลกินเจปีนี้จะคึกคักกว่าทุกปี
ดังนั้นเดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ พันธมิตรธุรกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย , ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จัดงาน “The Mall Lifestore Legendary J-Fest เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วไทย ครั้งที่ 24” รวบรวมสุดยอดอาหารเจเลื่องชื่อไว้ในงานเดียวกว่า 150 ร้านค้าชื่อดังกว่า 1,000 เมนู รวมที่สุดร้านอาหารเจดั้งเดิมชื่อดัง เจสไตล์โมเดิร์น รวมทั้งเมนูวีแกนสำหรับคนรักสุขภาพและร้านอาหารชั้นนำของศูนย์การค้าไว้ในงานเดียวในวันที่ 15 - 23 ตุลาคม 2566
“งานเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วไทยในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ยุทธจักรเจสองภพ” อิ่มเจ อิ่มใจ GEN ไหนก็มา ตอบรับไลฟ์สไตล์คนกินเจทุกเจนเนอเรชั่น โดยย้อนตำนานอาหารเจต้นตำรับสู่ยุคปัจจุบัน คัดสรรเมนูอาหารเจชื่อดังระดับตำนานจากภัตตาคาร ร้านอาหารชั้นนำและร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังทั่วกรุง
พบกับเมนูเจจาก “ร้านอาหารเจดั้งเดิม” อาทิ ยิ้ม ยิ้ม ภัตตาคาร, ภัตตาคารตั้งใจอยู่, ยำเกี่ยมฉ่ายเจ๊แดง (เจ้แดง) เยาวราช และ ฉางโซ่ว และ “ร้านอาหารเจสไตล์โมเดิร์น” อาทิ Absolute Plant, CANES, Meat Avatar, VIBE Coffee & Plant-Based Food และหลากหลายเมนูอาหารเจโมเดิร์น สำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วย”
ด้านนายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล และดิเอสพละนาด กล่าวว่า ทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและภาคท่องเที่ยวเป็นไปในทิศทางบวก ด้วยนักท่องเที่ยวที่กลับมาอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่ให้วีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีน
พร้อมต้อนรับความคึกคักของเซ็นทรัลสาขาในภาคใต้ที่เป็นจุดสำคัญของเทศกาลเจ อย่างเช่น เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล หาดใหญ่ จัดยิ่งใหญ่ต้อนรับคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวไทย Cross-region และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะกลุ่มมาเลเซีย-สิงคโปร์ เดินทางเข้ามาร่วมเทศกาลกินเจจำนวนมาก ทำให้เกิดเงินสะพัดในพื้นที่ ยอดจองโรงแรมและยอดการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก
อย่างไรก็ดี อาหารเจ ถือเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่เป็น Soft Power ที่สำคัญในการสร้างจุดขายให้กับประเทศและสร้างโอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยปีนี้นอกจากอาหารเจต้นตำหรับจากร้านดังเก่าแก่ในแต่ละย่านของไทยแล้ว ยังมีเมนูเจที่ครีเอทจากฝีมือเชฟชื่อดัง มากมาย และเมนูเจ plant-base ดีต่อสุขภาพ ไม่มัน และ Low cholesterol ซึ่งทำให้สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้กว้างมากขึ้น
ไม่เฉพาะGen Baby boomer, GenY-GenX แต่ไปถึง Gen Z และ Millennial ที่ตั้งใจบริโภคอาหารเจตามเทศกาล และกลุ่มที่ไม่ทานเจแต่สนใจเพราะเมนูมีความหลากหลายและน่ารับประทาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กินเจครบจบที่เดียวที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ
“ศูนย์การค้าเซ็นทรัลถือเป็นเดสติเนชั่นที่รวบรวมทุกไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การกินเจทุกรูปแบบสำหรับทุกเจเนอเรชั่น ในทุกๆปี เราให้ความสำคัญกับอินไซต์ของผู้บริโภคว่ากำลังสนใจหรือให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์รูปแบบไหน และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามเทรนด์ในทุกๆปี”
สำหรับในปีนี้จะเห็นว่าคนไทยใส่ใจเรื่องของสุขภาพ ดังนั้นเมนูเจที่นำเสนอจะมีความหลากหลายให้เลือกมากกว่า 5,000 เมนู ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเจเฮลตี้ เมนูเจจากครัวยอดดอย โครงการหลวง ที่เซ็นทรัลพัฒนา X โครงการหลวง นำเชฟของโครงการฯ มารังสรรค์เมนูเจ ปรุงจากผลิตผลของโครงการฯ มาเป็นเมนูพิเศษ
อาทิ ส้มตำอะโวคาโด, ข้าวซอยเจ เต้าหู้ทอด, นํ้าพริกอ่องดอยเห็ด 3 อย่าง, เจ ออริจินัล เมนูเจระดับตำนานจากร้านเก่าแก่ชื่อดัง ใน J Food Market, เจแพลนต์เบส และ เจอินเตอร์ กับเมนูเจนานาชาติจากร้านอาหารชั้นนำ เป็นต้น