‘เนสท์เล่’ จัดพอร์ตรับเทรนด์สุขภาพ 5 ปีทุ่ม 8,000 ล้าน ขยายสายการผลิตเต็มสูบ

24 เม.ย. 2567 | 07:48 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2567 | 07:56 น.

“เนสท์เล่ ประเทศไทย” เร่งเครื่องธุรกิจรับตลาดสุขภาพบูม จัดพอร์ตธุรกิจทั้งอาหาร-เครื่องดื่มประจำวัน โภชนาการเฉพาะกลุ่ม และอาหารว่าง ตอกย้ำ 2 กลยุทธ์ ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพพร้อมเดินหน้าทุ่มงบรวมกว่า 8,000 ล้านขยายสายการผลิตต่อเนื่องยาว 5 ปี

นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า เพื่อเดินหน้ากลยุทธ์การขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) และ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) ซึ่งเนสท์เล่มีพอร์ตผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกช่วงวัย และได้จัดพอร์ตอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อบิวด์แบรนด์ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ภายใต้พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยแผนการลงทุนในปี 2564-2569 เนสท์เล่จะใช้งบลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อขยายสายการผลิต เพิ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยูเอชที และผลิตภัณฑ์อาหารแมวเกรดซูเปอร์พรีเมียมชนิดเปียกและชนิดแห้งตอบโจทย์กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี

‘เนสท์เล่’ จัดพอร์ตรับเทรนด์สุขภาพ 5 ปีทุ่ม 8,000 ล้าน ขยายสายการผลิตเต็มสูบ

ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพมีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่อง จากผลสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกที่จัดทำโดยเนสท์เล่และคันทาร์ในปี 2565 พบว่า 91% ของผู้บริโภคชาวไทยต้องการรับประทานอาหารที่ดี และต้องการให้คนในครอบครัวมีการกินอยู่อย่างสมดุล ในขณะเดียวกันกลับพบว่ามีเพียง 42% ที่สามารถใช้ชีวิตด้วยการกินอยู่อย่างสมดุล

จากเทรนด์ดังกล่าวสู่แนวคิดการกินอยู่อย่างสมดุล หรือ Balanced Diet เนสท์เล่ยกทัพจัดพอร์ตผลิตภัณฑ์ มีการแบ่งพอร์ตผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยในแต่ละกลุ่ม ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคทุกวัน (Everyday Goodness) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของเนสท์เล่ ประเทศไทย เช่น เนสกาแฟ ไมโล นมตราหมี เนสวีต้า น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ น้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ และแม็กกี้

กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโภชนาการเฉพาะกลุ่ม (Tailored Nutrition) คือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของผู้บริโภคบางกลุ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ เนสท์เล่ เฮลท์ ไซเอนซ์ และผลิตภัณฑ์เพื่อโภชนาการเด็ก เช่น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ เอส 26 ตราหมี คาร์เนชั่น และแนน และสุดท้ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของว่าง (Mindful Indulgence) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับประทานได้อย่างพอประมาณ เพื่อสร้างสมดุลที่ดีทางจิตใจ อาทิ ไอศกรีมเนสท์เล่ คิทแคท เนสท์เล่ คอฟฟีเมต รวมถึงเครื่องดื่มเนสท์เล่ที่จำหน่ายในช่องทางการบริโภคนอกบ้าน

ด้านกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ แบ่งออกเป็น 2 กลยุทธ์ได้แก่

  1. การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Grow a Healthier Portfolio) ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคทุกวัน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโภชนาการเฉพาะกลุ่ม โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติที่อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมทั้งลดน้ำตาลและโซเดียมในผลิตภัณฑ์ ปัจจุบัน เนสท์เล่ มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 100 รายการที่ได้รับการรับรองสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Logo) นับเป็นจํานวนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองสูงสุดในบรรดาบริษัทอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดในไทย
  2. การส่งเสริมการรับประทานอย่างสมดุล (Guide with Balanced Choice) สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของว่าง ด้วยการปรับสูตรอาหารให้ผู้บริโภคได้รับประทานอย่างพอเหมาะ เช่น ไอศกรีมสำหรับเด็กทุกชนิดที่ให้พลังงานเพียง 110 กิโลแคลอรีหรือน้อยกว่า ขนมแบบมัลติเสิร์ฟสำหรับการบริโภคแบบหลายคนหรือบริโภคหลายครั้ง จะมีการระบุปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมสำหรับแต่ละมื้ออย่างชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์

‘เนสท์เล่’ จัดพอร์ตรับเทรนด์สุขภาพ 5 ปีทุ่ม 8,000 ล้าน ขยายสายการผลิตเต็มสูบ

ล่าสุดเนสท์เล่เปิดตัวแคมเปญ “คำเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่-Every Little Bite Matters” เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้เลือกรับประทานให้สมดุล ทั้งอาหารที่ดีต่อร่างกายและอาหารที่ดีต่อใจในปริมาณเหมาะสมแคมเปญนี้ประกอบด้วยการสื่อสารครบวงจรที่มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ตั้งเป้าเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 1.2 แสนคนใน 200 ชุมชนทั่วประเทศตลอดปี 2567 ด้วย

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,986 วันที่ 25 - 27 เมษายน พ.ศ. 2567