ทายาท "ฮาตาริ" แตกไลน์ธุรกิจ AI จับมือทุนไต้หวันตั้ง "ดาต้า เซ็นเตอร์"

27 มิ.ย. 2567 | 09:50 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2567 | 09:52 น.

ทายาท "ฮาตาริ" รุ่น 2 แตกไลน์ธุรกิจ AI จับมือซัพพลายเชน ไต้หวัน เพื่อพัฒนาเซิร์ฟเวอร์-แพลตฟอร์ม พร้อมตั้งศูนย์ "ดาต้า เซ็นเตอร์"ครั้งแรกในไทย

นายวิชัย วนวิทย์ ประธานบริษัท ฮาตาริ เน็กซ์ จำกัด (Hatari NEXT) ในเครือ ฮาตาริ (Hatari) ทายาทนายจุน วนวิทย์  ผู้ก่อตั้งเครือ “วนวิทย์ กรุ๊ป” เจ้าของแบรนด์พัดลม "ฮาตาริ” เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพของธุรกิจ AI ในประเทศไทย ตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง จึงได้ร่วมมือกับ เหอทง เอ็นเตอร์ไพร์ส เพื่อนำความเชี่ยวชาญด้านซัพพลายเชน AI มาผนวกกับประสบการณ์ในธุรกิจของฮาตาริ เน็กซ์ เพื่อสร้างโซลูชั่น AI ที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจและภาครัฐในประเทศไทย

การร่วมมือกันในครั้งนี้ แบ่งเป็น 3 ระยะ

ระยะแรก: มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชั่นแพลตฟอร์ม AI และ AI Server โดยเบื้องต้น ฮาตาริ เน็กซ์ ได้พัฒนาโซลูชั่นแพลตฟอร์มให้กับตำรวจในจังหวัดชลบุรี เพื่อดูแลเส้นทางจราจรอย่างครบวงจร

ระยะที่สอง: มุ่งเน้นไปที่การจัดตั้ง Academy เพื่อสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพด้าน AI ในประเทศไทย

ระยะยาว: มุ่งเน้นไปที่การสร้างศูนย์ข้อมูล AI แห่งแรกในประเทศไทย โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนและการลงทุนได้ในช่วงปลายปี 2568 

ทายาท \"ฮาตาริ\" แตกไลน์ธุรกิจ AI จับมือทุนไต้หวันตั้ง \"ดาต้า เซ็นเตอร์\"

สำหรับศูนย์ข้อมูล AI แห่งนี้ ฮาตาริ เน็กซ์ ต้องร่วมลงทุนระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ เนื่องจากใช้งบลงทุนราว 1 แสนล้านบาทเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ โดยศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาล 100-300 เมกะวัตต์ เหมาะสมกับพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรีที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับซึ่งเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนี้ยังมองพื้นที่ขยายศูนย์ข้อมูลไปยังนครศรีธรรมราช และเชียงรายในอนาคต

จุดประสงค์หลัก ของการสร้างศูนย์ข้อมูล AI นี้ คือรองรับความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากธุรกิจและองค์กรต่างๆ หันมาใช้ AI มากขึ้น ศูนย์ข้อมูลนี้จะช่วยรองรับความต้องการด้านพื้นที่เก็บข้อมูล ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ AI อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งการสร้างศูนย์ข้อมูล AI นี้ จะช่วยสร้างงานใหม่และดึงดูดนักลงทุน

นายวิชัย กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมี AI software ของตัวเอง AI ภาษาไทยที่สมบูรณ์แบบ หรือที่เรียกว่า Thai LLM หรือ Thai Large Language Model ซึ่งต้องอาศัยการลงทุนมหาศาล ฮาตาริ เน็กซ์ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้าน Gen-AI โซลูชั่น ในประเทศไทย พร้อมออกแบบโซลูชั่นให้เหมาะสมกับภาคธุรกิจต่างๆ นำพาประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ร่วมเพิ่มประสิทธิภาพของภาคธุรกิจไทย และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศไทย

ทายาท \"ฮาตาริ\" แตกไลน์ธุรกิจ AI จับมือทุนไต้หวันตั้ง \"ดาต้า เซ็นเตอร์\"

ฮาตาริ เน็กซ์ มุ่งมั่นสู่ผู้นำนวัตกรรมด้าน Gen-AI ด้วยการทุ่มงบลงทุนเบื้องต้น 100 ล้านบาท สำหรับธุรกิจ AI ด้านซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งสั่งซื้อระบบ AI Server จาก Supermicro บริษัทอันดับหนึ่งของโลกในตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2.5 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ ฮาตาริ เน็กซ์ ยังเลือกใช้แพลตฟอร์ม Da Vinci Gen-AI จากบริษัท MediaTek ของไต้หวัน การผนึกกำลังครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของ ฮาตาริ เน็กซ์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน Gen-AI การร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับฮาตาริ เน็กซ์ ที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจ AI ในประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และนำพาประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ