โรบินฮู้ด ฮีโร่ยุคโควิด สู่จุดจบที่น่าเสียดาย

ธุรกิจ "ฟู้ดเดลิเวอรี่" (Food Delivery) มีมูลค่าตลาดราว 8.6 หมื่นล้าน เป็นสนามการแข่งขันที่มียุครุ่งโรจน์ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 มีผู้เล่นหลักในตลาดที่คุมบังเหียนขับเคลื่อนตลาดราว 4 เจ้าใหญ่

หนึ่งในนั้นคือ แอปพลิเคชัน โรบินฮู้ด ธุรกิจในเครือของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCBX ที่เข้ามาทำตลาดในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ปักธงเป็น “ฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย เพื่อคนไทย” เข้ามาทำตลาดในฐานะ “ฮีโร่” ที่โอบอุ้มผู้ประกอบการร้านอาหาร SME ชูจุดแข็งคือการไม่เก็บค่า GP เพื่อต่อลมหายใจพ่อแม่แม่ค้า  

ล่าสุด SCBX ได้แจ้งยุติการให้บริการ โรบินฮู้ด ในวันนี้ 31 ก.ค.67 เป็นต้นไป สั่นสะเทือนวงการฟู้ดเดลิเวอรี่ ผู้คนหันมาจับตาว่าเกิดอะไรขึ้น? อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ต้องตัดสินใจยกธงขาว

ผศ.ดร.บุปผา ลาภะวัฒนาพันธ์ อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาด ประเมินสถานการณ์ไขข้อข้องใจ ดังกล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการโบกมือลาของยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ว่า “ย้อนกลับไปในช่วงปี 2563 ประเทศไทยเผชิญวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ธุรกิจต่างๆ ต่างได้รับผลกระทบ ร้านอาหารจำนวนมากต้องปิดตัวลง ประชาชนกังวลเรื่องความปลอดภัย ในสถานการณ์เช่นนั้น "โรบินฮู้ด" แอปพลิเคชันเดลิเวอรี่สัญชาติไทย ถือกำเนิดขึ้น มุ่งหวังช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กและประชาชน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม (GP) กลายเป็น "ฮีโร่" ท่ามกลางวิกฤต”

ปัจจัยเร่งที่นำไปสู่จุดจบ อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ตลาดเดลิเวอรี่กลับมาคึกคักอีกครั้ง โรบินฮู้ดเผชิญกับปัจจัยเร่งหลายประการ ประกอบด้วยปัจจัยหลัก ๆ อย่าง การเข้าสู่ตลาดช้า โรบินฮู้ดเข้าสู่ตลาดช้ากว่าคู่แข่งหลัก ส่งผลเสียเปรียบด้านฐานลูกค้าและการรับรู้แบรนด์ คู่แข่งที่หลากหลายและรุนแรง ตลาดเดลิเวอรี่มีการแข่งขันสูง คู่แข่งแต่ละรายต่างนำเสนอโปรโมชั่นและบริการที่ดึงดูดลูกค้าพร้อมที่จะอัดโปรโมชั่นชิงกำลังซื้ออยู่ตลอดเวลา ต้นทุนที่สูง โรบินฮู้ดเผชิญกับต้นทุนที่สูงในการทำตลาด ควบคุมมาตรฐานไรเดอร์ และพัฒนาระบบ และโรบินฮู้ดขาดกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าในระยะยาว

แม้จะปิดตัวลง แต่โรบินฮู้ดก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสังคมช่วงวิกฤต  SCBX บริษัทแม่ของโรบินฮู้ด พยายามหาทางออก ทางเลือกที่เหลืออยู่นั่นคือการยุติบทบาทหรือการรีแบรนด์ ซึ่งในวันที่ธุรกิจประสบวิกฤตต้องห้ามเลือดการรีแบรนด์เป็นการลงทุนครั้งใหญ่อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีเท่าไหร่นัก

การปิดตัวของโรบินฮู้ด สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในธุรกิจเดลิเวอรี่  การแข่งขันที่รุนแรง ต้นทุนที่สูง และกลยุทธ์ที่ชัดเจน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณา

อนาคตของธุรกิจเดลิเวอรี่แม้ตลาดเดลิเวอรี่จะเผชิญกับการแข่งขันที่สูง แต่ยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถต่อยอดได้จากฐานข้อมูลของลุกค้าที่มีอยู่ในมือ อินไซต์ต่าง ๆ เปรียบเสมือนทองคำที่ทำให้ผู้เล่นหลักในตลาดยังคงเดินหน้าทำธุรกิจต่อไปแม้ได้กำไรไม่มากนัก แต่ในอนาคตจะสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นผู้ที่เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า มอบบริการที่หลากหลาย และสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ผศ.ดร.บุปผา กล่าวทิ้งท้าย