เครือสหพัฒน์ ชี้กำลังซื้อฟื้น ตั้งเป้ากระตุ้นการจับจ่าย

30 มิ.ย. 2567 | 10:20 น.

เครือสหพัฒน์ จัดงานพบนักวิเคราะห์และนักลงทุน ครั้งที่ 13 ปี 2567 ฝ่าวิกฤต เผยกลยุทธ์สู้ทุกอุปสรรค ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจชะลอ ชี้ประเทศไทยยังมีศักยภาพเติบโต กางแผนบุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงภาพรวมการแข่งขันที่ดุเดือดของสินค้า FMCG

นายวรยศ ทองดัน กรรมการผู้จัดการ บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮงดิ้ง หรือ SPI ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2515 ก่อตั้งใช้เงินจดทะเบียนเริ่มต้น 6 ล้านบาท ณ ปัจจุบันช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัททีมูลค่า 47,170 ล้านบาท มีการปรับโครงสร้างองค์กรและพัฒนาปรับตัวอยู่เสมอเพื่อรับการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจหลัก 3 ด้าน

  • มุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่ดินสำหรับอุตสาหกรรม
  • มองหารแหล่งลงทุนที่หลายหลากพร้อมร่วมลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ
  • แบ่งปันความรู้ต่อยอดความร่วมมือ ทั้งภายในและภายนอกสหพัฒน์

เครือสหพัฒน์ ชี้กำลังซื้อฟื้น ตั้งเป้ากระตุ้นการจับจ่าย

การลงทุนของ SPI มีลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค , กลุ่มเครื่องดื่ม และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยรายได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 66 ทำรายได้สูงถึง 7,386 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,095 ล้านบาท พร้อมกางปี 67 ลุยธุรกิจสวนอุตสาหกรรม รับเทรนด์ย้ายฐานผลิต หนุนผลงานครึ่งปีหลังโต เดินหน้าสร้าง Synergy ในกลุ่มธุรกิจ ไฮไลต์ของกลุ่ม SPI คือการก่อสร้างคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ นับเป็นตึกที่สูงที่สุดในเครือสหพัฒน์ปักธงเป็นอาคารสำนักงานคาดเสร็จสิ้นปี 67 นี้ ยอดจองพุ่งกว่า 60%

ทางด้านนายพันธุ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ หรือ TFMAMA กล่าวว่า ปีที่แล้วมีการปรับฐานราคาสินค้าเพิ่มขึ้นบางรายการ ครั้งแรกในรอบ 14 ในกลางปี 65 ได้รับอนุมัติเมื่อปี 66 ที่ผ่านมา ถึงแม้เป็นสินค้าควบคุมแต่ต้นทุนพุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ต้องมีการปรับราคา

แต่ในปี 66 กำไรพุ่งสูงขึ้นเติบโตขึ้นจากการขยายไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น คาดการณ์ยอดขายโต 6-8% ตั้งเป้าขยายต่างประเทศเพิ่ม บุกครบ 80 ประเทศใน 3 ปี โดยมีสัดส่วนกำไรจากขายในประเทศ 40% ต่างประเทศ 30% กำไรจากการลงทุน 20% แบรนด์พร้อมแผนมองตลาดแอฟริกาใต้ จีน อินเดีย และฐานประเทศที่แข็งแรงอย่าง อเมริกา มีออสเตรเลีย จากเดิมวางจำหน่ายร้านเอเชีย ปักธงมองหาพันธมิตรวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ ส่วนในตลาดไทยเองเชื่อกำลังซื้อในประเทศฟื้น จากมาตรการรัฐ เตรียมออกรสใหม่ต่อเนื่อง

เครือสหพัฒน์ ชี้กำลังซื้อฟื้น ตั้งเป้ากระตุ้นการจับจ่าย

พฤติกรรมการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ 45 ซองต่อคนต่อปี ทาง TFMAMA มองว่าจะสามารถเติบโตได้อีกจากการครีเอทรสชาติใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค ในช่วงครึ่งปีแรกในไทยมียอดขายเติบโต 6% คาดการณ์ว่าทั้งปีอาจจะอยู่ที่ 8% และคาดว่าโอกาสการเติบโตครั้งใหม่อยู่ที่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงแผนการลงทุน มองหาพันธมิตรใหม่ ๆ อย่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เช่นธุรกิจทำถ้วยกระดาษ ธุรกิจโรงงานแป้งสาลี สิ่งเหล่านี้คือขาสำคัญที่ทำให้ TFMAMA เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่นายอภิเศรษฐ ธรรมโนชัย บมจ. เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ หรือ PB ฟาร์มเฮ้าส์ กล่าวว่า กำไรปีที่ผ่านมา 1,706 ล้านบาท เป็นนิวไฮมาจากปัจจัยสินค้าใหม่ ๆ ที่ออกสู่ตลาด กิจกรรมทางการตลาดใหม่ ๆ ถึงแม้คู่แข่งจากยักษ์ใหญ่ตบเท้าเข้าแข่งขันในธุรกิจถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ บริษัทมีแผนทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแคมเปญโฆษณา และการปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น

เครือสหพัฒน์ ชี้กำลังซื้อฟื้น ตั้งเป้ากระตุ้นการจับจ่าย

มูลค่าตลาดเบเกอรี่ 40,000 ล้านบาท มีการเติบโตทุกปีอยู่ที่ 7-8% ต่อปี มองว่าตลาดยังมีโอกาสการเติบโตถ้าเปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่นส่งผลให้ ในปีนี้คาดหวังว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตที่ดี มีจากปัจจัยบุกการตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ดาราเบอร์ใหญ่ 3 ท่าน กิจกรรมทางการตลาดอย่างใช้แอนิเมชั่นเขามาดึงดูดลุกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงคอนเสิร์ตอีกด้วย พร้อมแผน  ขยายตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวน 1,000 ตู้ต่อปี ไม่ใช่แค่ขนมปัง มีสินค้าที่เป็นเครื่องดื่มอีกด้วย พร้อมมองการขยายตลาดต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นในเศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยวางเป้าหมายยอดขายเติบโตที่ระดับ 10% บริษัทมีแผนทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแคมเปญโฆษณา และการปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น