“มะลิ” ปักหมุด “Mali Café” แฟรนไชส์สร้างอาชีพเริ่มต้น 3.5 หมื่น

25 ก.ค. 2567 | 07:52 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2567 | 08:04 น.

“นมตรามะลิ” มั่นใจครึ่งปีหลังยังเติบโต เดินหน้าบุกตลาดร้านกาแฟ เปิดตัวแฟรนไชส์ “Mali Café” เน้นกลุ่มแม่บ้าน-อาชีพเสริม ชูกลยุทธ์ออนไลน์ LINE My Shop พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในตะวันออกกลาง เปิดตัวสินค้าใหม่ไตรมาส 4

นางสุดถนอม กรรณสูต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นมตรามะลิมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกของปีมีปัจจัยหลักมาจากการกลยุทธ์ขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุม เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ได้แก่ นมข้นหวานตรามะลิแบบถุง นมข้นหวานตรามะลิแบบกล่อง และนมข้นหวานตรามะลิแบบหลอดบีบโดยจุดเด่นของบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ นี้คือความสะดวกสบายในการใช้งาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่

สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทมั่นใจว่านมตรามะลิจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายประการ ทั้งสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น หรือกำลังซื้อของผู้บริโภค และการแข่งขันที่รุนแรง โดยมีปัจจัยมาจากธุรกิจอาหารที่ยังคงขยายตัว

ด้านแผนรุกตลาดในไตรมาส 4 บริษัทมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ควบคู่กับการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย มุ่งสร้างการเข้าถึงสินค้าที่สะดวกและรวดเร็ว ด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายนี้ ส่งผลให้นมตรามะลิยังครองความเป็นผู้นำในตลาดนมข้นหวานของประเทศไทยกว่า 30% อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

“มะลิ” ปักหมุด “Mali Café” แฟรนไชส์สร้างอาชีพเริ่มต้น 3.5 หมื่น

โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิสราเอล ส่วนปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น ไต้หวัน เกาหลี แอฟริกา และ CLMV ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่านมตรามะลิจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ด้วยคุณภาพของสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่รัดกุมและการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่

นางสุดถนอม กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทเปิดตัว Mali Café แฟรนไชส์ร้านกาแฟน้องใหม่ ภายในงาน Thailand Coffee Fest 2024 เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่ง Mali Café มีจุดเริ่มต้นมาจากความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการสร้างอาชีพยั่งยืนให้แก่ครอบครัวตำรวจผ่านโครงการ “อาซ้อ” คาเฟ่ เมื่อปี 2566 ซึ่งเป็นร้านกาแฟรูปแบบคีออสขนาดเล็ก ซึ่ง “อาซ้อ” คาเฟ่ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคทั่วไปนอกเหนือจากครอบครัวตำรวจ กระแสตอบรับที่ดีนี้ จึงเป็นแรงผลักดันให้บริษัทตัดสินใจขยายธุรกิจร้านกาแฟ โดยก่อตั้ง “Mali Café” ขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม

“มะลิ” ปักหมุด “Mali Café” แฟรนไชส์สร้างอาชีพเริ่มต้น 3.5 หมื่น

“เราผลักดัน Mali Café ให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้อย่างง่ายขึ้น อีกทั้งเรายังมั่นใจว่า Mali Café สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลายๆ กลุ่มในการทานเครื่องดื่ม ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์กาแฟที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศและ Mali Café ไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์กาแฟ แต่เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัทที่ต้องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นมคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิตที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม”

สำหรับจุดเด่นของ Mali Café คือการลงทุนครั้งเดียวจบ ไม่มีค่าแฟรนไชส์ ไม่มีเก็บเปอร์เซ็นต์ขายรายเดือน และจะมีนำเสนอแพ็คเกจครบครันสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ วัตถุดิบ และสูตรอาหารพร้อมฝึกปฏิบัติ โดยจะมีทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ ไซส์ SS, ไซส์ S, ไซส์ M และไซส์ L ราคาเริ่มต้นที่ 3.5 หมื่นบาทถึง 1.5 แสนบาท ซึ่งไซส์ SS ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นไซส์ที่ทุกกลุ่มสามารถจับต้องได้ด้วยราคาย่อมเยา โดย Mali Café มุ่งเน้นกลุ่มแม่บ้าน หรือผู้ที่ต้องการหาอาชีพเสริม แต่ก็ยังตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งกลุ่มกาแฟ กลุ่มไม่ดื่มกาแฟ เช่น โอวัลติน และกลุ่มรักสุขภาพ เช่น นมโอ๊ต เป็นต้น

“มะลิ” ปักหมุด “Mali Café” แฟรนไชส์สร้างอาชีพเริ่มต้น 3.5 หมื่น

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีร้าน Mali Café ราว 10 สาขาในครึ่งปีหลัง ส่วนแผนธุรกิจในระยะยาว อยากจะขยายธุรกิจ Mali Café ให้ได้ทั่วประเทศ โดยคาดหวังในอนาคตจะสามารถนำผลิตภัณฑ์ของนมตรามะลิเข้าไปอยู่ในทุกครัวเรือน เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผ่านกลยุทธ์ออนไลน์ LINE My Shop เพื่อเสนอขายสินค้าต่างๆ ของ Mali Café โดยอนาคตมีแผนจะทำกลยุทธ์ในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น TikTok เป็นต้น