ผู้ประกอบการร้านอาหารปรับตัวรับมือเศรษฐกิจ ชูกลยุทธ์ดึงดูดกลุ่มเปราะบาง

23 ก.ย. 2567 | 21:55 น.

แนะร้านอาหารปรับราคา จัดโปรโมชั่น และทำกิจกรรมเพื่อสังคม ดึงลูกค้ากลุ่มเปราะบางกลับมา หลังได้รับเงิน 10,000 บาท วอนภาครัฐและเอกชน หนุนการเข้าถึงกลุ่มนี้ในพื้นที่ห่างไกล

นายสุภัค หมื่นนิกรผู้ก่อตั้งสถาบันธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ จำกัด ผู้บริหารร้านแฮมเบอร์เกอร์ “Siam Steak” และไส้กรอกพรีเมี่ยม “อีซี่ส์” ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินเยียวยา 10,000 บาทของกลุ่มเปราะบาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ภาพรวมของการใช้จ่ายเงินก้อนนี้ว่า ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ชำระหนี้สินที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบกับบุคคลใกล้ชิด หรือหนี้สินอื่น ๆ ที่ค้างชำระ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาระหนี้สินที่กลุ่มเปราะบางต้องแบกรับ และความจำเป็นเร่งด่วนในการชำระหนี้เหล่านี้

นายสุภัค หมื่นนิกร

นอกจากนี้ เงินส่วนหนึ่งยังถูกนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะค่าอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต กลุ่มเปราะบางจำนวนมากต้องประสบปัญหาในการหาเลี้ยงชีพและมีรายได้ที่จำกัด ทำให้ต้องเลือกซื้ออาหารที่มีราคาถูกและมีคุณค่าทางอาหารน้อยกว่า เช่น มาม่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและเพียงพอ

นายสุภัคกล่าวว่า อีกกลุ่มหนึ่งที่นำเงินเยียวยาไปใช้ในการลงทุนธุรกิจขนาดเล็ก เช่น การขายอาหารตามสั่ง หรือสินค้าประเภทอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างรายได้เพิ่มเติมและพึ่งพาตนเองของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ แม้ว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ทักษะ ความรู้ และทุนที่นำมาลงทุนก็ตาม

สรุปได้ว่า การใช้จ่ายเงินเยียวยา 10,000 บาทของกลุ่มเปราะบางนั้นมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่

  • ภาระหนี้สิน: กลุ่มที่มีหนี้สินจำนวนมากจะนำเงินไปชำระหนี้เป็นอันดับแรก
  • รายได้: กลุ่มที่มีรายได้น้อยจะนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นหลัก
  • ทักษะและความรู้: กลุ่มที่มีทักษะและความรู้ในการประกอบธุรกิจอาจนำเงินไปลงทุน
  • โอกาส: กลุ่มที่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและแหล่งทุนมากกว่า อาจมีโอกาสในการพัฒนาตนเองและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

 

ในฐานะที่เป็นผู้ดำเนินธุรกิจในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน ผมมองเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มักนิยมบริโภคอาหารตามร้านค้าขนาดเล็กหรือตลาดนัด เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ ผู้ประกอบการควรมีแผนกระตุ้นการขายที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

"หนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจคือการปรับโครงสร้างราคาสินค้าให้เข้าถึงง่ายขึ้น เช่น การจัดโปรโมชันลดราคาพิเศษสำหรับเมนูยอดนิยม หรือการสร้างแพ็กเกจอาหารราคาประหยัด เพื่อดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้บริการบ่อยขึ้น

นอกจากนี้ การสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย หรือป้ายประกาศภายในร้าน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี"

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์และช่วยเหลือสังคมไปพร้อมกัน การจัดกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น การจัดวันอาหารราคาพิเศษสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือการร่วมมือกับวัดวาอารามในการจัดเลี้ยงอาหารให้แก่ผู้ยากไร้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ นอกจากจะเป็นการสร้าง goodwill แล้ว ยังเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับชุมชนได้อีกด้วย

ผู้ประกอบการร้านอาหารปรับตัวรับมือเศรษฐกิจ ชูกลยุทธ์ดึงดูดกลุ่มเปราะบาง

อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ห่างไกลอาจเป็นเรื่องท้าทาย ผู้ประกอบการควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร และมีโอกาสเข้าถึงสินค้าและบริการในราคาที่เอื้อมถึงได้มากขึ้น