นางสาวสมปรารถนา เจิมศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการลงทุนและพัฒนาธุรกิจค้าปลีก บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (SFL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อ "คาลเท็กซ์" ในประเทศไทย กล่าวว่า
คาลเท็กซ์เพิ่มความเข้มข้นในการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ 528 แห่ง และมีร้านค้าปลีกครอบคลุมประมาณ 80% ของทั้งหมด ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้าให้ครอบคลุม 85% ภายในปี 2568
“การยกระดับความร่วมมือในการเปิดให้บริการร้านกาแฟชาวดอยในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ รวมทั้งการทำแคมเปญร่วมกันในอนาคต มีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสในการขยายฐานผู้บริโภคเพื่อนำไปสู่การเติบโตของเครือข่ายร้านค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ โดยร้านกาแฟถือว่าเป็นร้านค้าในสถานีบริการน้ำมันที่ยังคงเป็นที่ต้องการของลูกค้าที่ใช้บริการและยังมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตามการร่วมมือครั้งนี้มีโอกาสที่แบรนด์จะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆที่มีอายุลดลงเข้ามาใช้บริการ ตามภาพรวมของการดื่มกาแฟที่เปลี่ยนแปลงไป โดยพฤติกรรมการดื่มกาแฟของคนไทยเฉลี่ย 300 แก้วต่อคนต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิม 150-170 แก้วต่อคนต่อปี ขณะที่อายุเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 16-17 ปี จากเดิมที่มีอายุ 21-22 ปี
ด้านนายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครืออโรม่ากรุ๊ป เจ้าของแบรนด์กาแฟชาวดอย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมของตลาดกาแฟในปี 2566 มีมูลค่ารวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท เติบโต 7.8% แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.ตลาดกาแฟบริโภคที่บ้าน 3.4 หมื่นล้านบาท และ 2.ตลาดกาแฟบริโภคนอกบ้าน 2.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นร้านกาแฟในสถานีบริการน้ำมันกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 25% และแบรนด์ร้านกาแฟอื่นๆกว่า 8,000 ล้านบาท
บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการทำตลาด จึงร่วมมือกับคาลเท็กซ์นำแบรนด์ “กาแฟชาวดอย” เปิดให้บริการในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อตอบรับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตบนท้องถนนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อทำงาน หรือเพื่อการพักผ่อน การเดินทางด้วยรถยนต์จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว และแน่นอนว่าการดื่มกาแฟก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับหลายๆ คนในระหว่างการเดินทาง
“การร่วมมือกับคาลเท็กซ์ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางใหม่ในการขยายสาขากาแฟชาวดอย โดยมีแผนเพิ่มสาขาในปั๊มคาลเท็กซ์ให้ได้ 200 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ 38 สาขา”
โดยรูปแบบการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งแต่ละสาขาจะใช้เงินลงทุนราว 1.7 ล้านบาทอย่างไรก็ดี การเร่งขยายเครือข่ายนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นตลาดของกาแฟในปั๊มน้ำมันทั่วประเทศให้มีการแข่งขันและเติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาเมนูเครื่องดื่มใหม่ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับลูกค้าในปั๊มคาลเท็กซ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ด้วย
“การขยายสาขาของชาวดอยในปั๊มน้ำมันน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าการขยายในห้าง เนื่องจากคนที่ดื่มกาแฟส่วนใหญ่มักเป็นพนักงานออฟฟิศ ซึ่งต้องรีบไปทำงานแต่เช้า การตั้งร้านกาแฟที่ปั๊มน้ำมันซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. จะตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคกาแฟของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดีกว่า
อีกทั้งปั๊มน้ำมันมักตั้งอยู่ริมถนนและเข้าถึงได้ง่าย ผู้บริโภคสามารถจอดรถและซื้อกาแฟได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่การไปซื้อกาแฟที่ห้างอาจต้องใช้เวลามากกว่า เนื่องจากต้องหาที่จอดรถและเดินเข้าไปในตัวห้าง อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่รีบเร่ง”
สำหรับผลประกอบการของอโรม่า กรุ๊ป ในปี 2566 มีรายได้รวม 2,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีรายได้ 1,900 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตในระดับเดียวกัน และเติบโตขึ้น 13% ในปีหน้า
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,035 วันที่ 13 - 16 ตุลาคม พ.ศ. 2567